‘อนุทิน’ ให้ ‘นายกฯ’ ตัดสินใจ ใครอาสาฉีดวัคซีนโควิดก่อน

‘อนุทิน’ ให้ ‘นายกฯ’ ตัดสินใจ ใครอาสาฉีดวัคซีนโควิดก่อน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว สธ. เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก หลังจากต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน จากกรณีเดินทางไปปฏิบัติงานที่ จ.สมุทรสาคร และพบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า กรณีการเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ทำผิดกฎหมาย เป็นการปรารภเพื่อช่วยกันหาวิธี เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณของชาติเท่าที่จะทำได้ แต่จะทำได้หรือไม่ต้องดูที่ข้อกฎหมายด้วย ที่ตนเสนอก็ไม่ได้หมายถึงคนไทย แต่เน้นกลุ่มลักลอบเข้ามาผิดกฎหมาย เบื้องต้นคงไม่มีใครปล่อยให้ทรมานจนอาการหนัก เสียชีวิต ยังต้องยึดหลักสิทธิมนุษยชน แต่ก็ต้องมีกฎเกณฑ์ ไม่ใช่ใครจะเข้ามาก็เข้ามาได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาด แล้วจะลักลอบเข้ามาในไทยดีกว่า เพราะถึงอย่างไรก็รักษาให้ แบบนี้ถามว่าประเทศไทยจะไหวหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่นำมาหารือกันในที่ประชุม

“เราคิดเซฟเงิน ดีกว่าคิดจะใช้แต่เงิน ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้หรือขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องพูดกันแล้ว เพราะไม่มีใครสามารถทำผิดกฎหมายได้ แต่ผมไม่ได้หมายถึงคนไทย ผมหมายถึงคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย” นายอนุทินกล่าว และว่า ดังนั้น จึงต้องมีหลักว่าจะต้องทำอย่างไร ที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุด และควบคุมโรคให้ดีที่สุด

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนคนไทยถ้าทำผิดกฎหมาย ก็ต้องใช้โทษตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ส่วนการรักษาก็ต้องรักษาอยู่แล้ว ไม่เคยอยู่ในความคิดของ สธ.ที่จะไม่ดูแล

Advertisement

“แต่คนเอาไปตีความเยอะกันเอง เรียกว่าฟังแล้วต้องจับไปกระเดียด ไม่ใช่ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปเรื่อย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองดีกว่า” รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องใช้เวลาศึกษาข้อกฎหมายนานแค่ไหน นายอนุทินกล่าวว่า ก็ศึกษาไป อย่างน้อยก็ตั้งกฎเกณฑ์ไว้ ตนเพียงปรารภเอาไว้ เพราะใน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 41, 42 และ 43 ระบุไว้ชัดเจนว่าหากเราไม่คิด ไม่ตั้งมาตรการตนก็จะโดนเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะรัฐมนตรีมีหน้าที่ออกกฎเกณฑ์เพื่อป้องกันโรค ป้องกันพาหะของโรค ดังนั้นจึงตอบปัญหาของตัวมันเองว่า คนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของรัฐธรรมนูญก็ต้องปฏิบัติอย่างหนึ่ง คนที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของรัฐธรรมนูญ เมื่อดูที่มาตรา 47 คนไทยทุกคนต้องได้รับการรักษาหมด ก็จบไป รัฐธรรมนูญมีศักดิ์ศรีเหนือกว่าพ.ร.บ.อยู่แล้ว ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

เมื่อถามถึงความพร้อมในการเป็นอาสาสมัครฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในล็อตแรก นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมฉีดอยู่แล้ว”

Advertisement

ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะฉีดด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าท่านประสงค์จะฉีด ก็ต้องให้ท่านนำ แต่หากท่านนายกฯ บอกให้ตนลองก่อน เราก็ต้องยอมตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ต้องปกป้องผู้บังคับบัญชาก่อน

“ในเมื่อเป็นคนเห็นชอบให้ทำนโยบายวัคซีน เราสั่ง เราก็ต้องยอม เราไม่ฉีดแล้วใครจะฉีด” นายอนุทินกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image