พท.ชงจ่าย 5 พัน อีก 3 เดือน รับมือโควิด – ‘โจ้’ ซัดไม่ตัดงบซื้อ ‘เรือดำน้ำ-รถถัง’
เมื่อวันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับมาตรการการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีข้อเสนอดังนี้
1.กลุ่มแรงงานนอกระบบที่ไม่มีประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอิสระ ลูกจ้าง กลุ่มเปราะบาง และเกษตรกร ให้ได้รับเงินสนับสนุนคนละ 15,000 บาท แบ่งจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐ และเงินสนับสนุนคนละ 18,000 บาท แบ่งจ่ายเดือนละ 6,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับในพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐ
2.มาตรการลดภาระของประชาชน อุดหนุนภาระดอกเบี้ย สำหรับผู้ที่ผ่อนรถยนต์ คอนโดมิเนียม และบ้านอยู่อาศัย ผู้ได้รับผล กระทบเป็นระยะเวลา 6 เดือน
3.ขยายระยะเวลายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมวันที่ 31 มีนาคม 2564 เป็นวันที่ 31 สิงหาคม 2564 4.ลดภาระประชาชนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ โดยภาครัฐสนับสนุนบางส่วน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
แถลงการณ์พรรค พท. ระบุว่า มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 1.มาตรการหารายได้เข้ารัฐ ที่ไม่ใช่เพียงภาษี 2.การลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มระบบราชการของไทยทั้งหมด โดยเริ่มจาก แพลตฟอร์มทางการคลัง และ ระบบภาษี เพื่อให้มีประสิทธิภาพ 3.การแก้ไขระบบศุลกากรที่เป็นปัญหา
4.ปรับปรุงระบบภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรม 5.ควบคุมแพลตฟอร์มต่างชาติไม่ให้มีอิทธิพลกับเศรษฐกิจไทยมากนัก 6.จัดงบ ประมาณใหม่ โดยต้องเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน 7.ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาท/ลิตร จากที่เก็บอยู่ปัจจุบันที่ 5.99 บาท/ลิตร และ 8.กระตุ้นเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่าการแจกเงิน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่ากรณี พล.อ.ประยุทธ์ มอบนโยบายจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2564 จำนวน 277,000 ล้านบาท ว่า เป็น ส.ส.มากว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ลดลงกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งที่ประเทศกำลังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนัก รัฐบาลต้องมีหน้าที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนของภาครัฐคือ การลงทุน โครงการภาครัฐต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้ประชาชน ค้าขายทำธุรกิจได้ คนจะได้มีรายได้และมีงานทำเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ บอกแต่ว่าให้ประหยัดงบประมาณ แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่แตะต้องงบประมาณของกองทัพต่างๆ และไม่พูดเรื่องการปรับลดงบประมาณปี 2565 ในส่วนของกองทัพ เช่น .กองทัพเรือ จัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน 2 ลำ วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท โครงการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ 950 ล้านบาท กองทัพบก โครงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตี 4.2 พันล้านบาท โครงการจัดซื้อรถถังใหม่ 1.67 พันล้านบาท กองทัพอากาศ โครงการจัดซื้อเครื่องบินโจมตีเบา 4.5 พันล้านบาท เป็นต้น
