‘นิพิฎฐ์’ เฉลย คนเท่ากันจริงหรือ? ยัน ไม่เท่ากันจริง แต่’โอกาสและสิทธิ’ ต้องเท่ากัน
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง คนเท่ากันจริงหรือ? หลังจากก่อนหน้านี้ได้โพสต์ตั้งคำถามเรื่องคนเท่ากันและถูกวิจารณ์ไปต่างๆนาๆ โดยครั้งนี้ นิพิฎฐ์ อธิบายเชิงทฤษฎีการเมืองในสังคมเสรีนิยมประชาธิปไตย โดย ระบุว่า
“วันก่อนผมตั้งคำถามให้ช่วยกันคิดว่า “คนเท่ากันจริงหรือ?” มีผู้เข้ามาอ่านเยอะ และมีทัวร์มาลงเยอะเช่นเดียวกัน แต่ไม่เป็นไร เพียงอยากให้”อ่าน”แล้ว”คิด” กันเท่านั้นเอง วันนี้ผมขอตอบก็แล้วกันว่า มนุษย์ไม่เท่าเทียมกันหรอกครับ เกิดมาก็ไม่เท่ากันแล้ว บางคนเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองออกมา บางคนเกิดมาก็คาบผ้าขี้ริ้วออกมา ทำไมเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน ต้องไปหาคำตอบเอาเองตามหลักศาสนาของแต่ละศาสนาก็แล้วกัน ศาสดาทุกศาสนาก็ตอบคำถามนี้ไว้แล้ว แต่เมื่อมนุษย์ไม่เท่าเทียมกัน ในสังคมประชาธิปไตย เขาจึงพยายามแก้ปัญหานี้ ด้วยการให้”โอกาส” และ”ความเสมอภาค” แก่มนุษย์ เพื่อแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียม โดยให้ทุกคนมีโอกาสและความเสมอภาคเท่ากัน ทั้งนี้ โดยเชื่อว่าแม้จุดสูงสุดของสังคมจะไม่มีที่ให้ทุกคนขึ้นไปยืน แต่ในระบอบประชาธิปไตย ใครๆก็สามารถขึ้นไปยืนยังจุดสูงสุดนั้นได้เสมอโดยไม่เกี่ยงชนชั้น”
“แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์ก็ไม่สามารถขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดได้ทุกคน ทั้งนี้เพราะ สุขภาพ,กำลังกาย,กำลังทรัพย์ และ กำลังสติปัญญา ของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ถ้าอย่างนั้น มีอะไรไหมที่มนุษย์มีเท่าเทียมกันบ้าง โดยไม่ต้องใช้กำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญา เข้าแข่งขันกัน ก็มีเหมือนกันครับ สิ่งนั้นคือ”สิทธิ” ในทางการเมือง และ”ความเสมอภาคในทางกฎหมาย” ดังมีคำกล่าวว่า”ทุกคนต้องเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย” การเรียกร้องให้ทุกคนเท่าเทียมกัน จึงไม่ใช่การเรียกร้องให้ทุกคนรวยเท่ากัน ไม่ใช่เรียกร้องให้ทุกคนฉลาดเท่ากัน หรือเรียกร้องให้ทุกคนแข็งแรงเหมือนกัน แต่คือการเรียกร้องสิทธิในทางการเมืองและความเสมอภาคกันทางกฎหมาย หรือ อาจเรียกรวมๆว่า เรียกร้องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ให้มีการปฏิบัติต่อมนุษย์ตามสิทธิพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน ที่เขาออกมาชุมนุมประท้วงกันอยู่บางเรื่องก็ถูก บางเรื่องก็เข้าใจเขาได้ แต่มันไม่ง่ายหรอก อยู่ที่เขาเข้าใจความเท่าเทียม,ความเสมอภาคอย่างไร และบางเรื่องที่เขาเรียกร้องมันมีอยู่แล้วแต่เขาไม่รู้จัก และเขาใช้มันไม่เป็นเท่านั้นเอง เรื่องความเท่าเทียมนี้ยาวค่อยคุยกันต่อตอนที่ 3 นะครับ”
