‘ศุภชัย’ ชี้ ‘นิพิฏฐ์’ เข้าใจผิด แจง ‘อนุทิน’ แค่เสนอให้ช่วยกันคิดกรณีคนข้ามแดนนำโรคติดต่อเข้ามาในประเทศ ยัน ไม่ปฏิเสธการรักษา แต่ภาระค่าใช้จ่าย ผู้กระทำผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบเอง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) สาธารณาสุข มีความเห็นเรื่องผู้ติดเชื้อโควิด-19 ข้ามแดนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคนงานต่างด้าวหรือผู้เล่นการพนันนั้น มีการแสดงความคิดเห็นกันมากมายผ่านทางสื่อมวลชนและทางโซเชียล
โดยประเด็นที่นายอนุทินเสนอคือ ให้ช่วยกันคิด ช่วยกันดู มาตรา 41 และ 42 ของพระราชบัญญัติ (พรบ.) โรคติดต่อ ไม่ใช่รักษาหรือไม่รักษาแต่กฎหมายกำหนดให้รมว.สาธารณสุข ผู้รักษากฎหมายต้องปฏิบัติ ซึ่งประเด็นมาตรา 41 และ 42 คือคนข้ามแดนนำโรคติดต่อระหว่างประเทศ เข้ามาในประเทศ กฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น จะให้ละเว้นกฎหมายก็ต้องมีการประกาศให้ชัด ว่าสิ่งที่นายอนุทินได้เสนอ คือประเด็นชวนคิด โดยมีความเห็นชัดเจนว่าผู้ป่วยทุกคน ไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศต้องได้รับการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานสาธารณสุข และย้ำชัดเจนว่า ไม่มีการปฏิเสธการรักษา แต่ภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา ผู้กระทำความผิด ละเมิดกฎหมาย ลักลอบข้ามแดนหรือนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค มีกฎหมายบัญญัติไว้อยู่แล้ว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขมีภาระค่าใช้จ่าย ต้องตรวจรักษาผู้ลักลอบข้ามแดน ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว จำนวนมาก ซึ่งเป็นงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนและเงินกู้ที่คนไทยต้องชดใช้นั่นเอง คำถามคือเมื่อมีปัญหาภาระงบประมาณเกิดขึ้น นายอนุทิน ซึ่งเป็นรัฐมนตรี ในฐานะผู้บริหารควรจะปฏิบัติอย่างไร โดยสิ่งที่นายอนุทินเสนอคือ 1.ยินดีรับฟังความเห็นต่าง แต่ขอให้เสนอทางออกด้วย 2.กฎหมายมีอยู่ 3.หาแนวทางปฏิบัติตามกฎหมาย 4.กรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กำหนดแนวทาง 5.กรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำ แต่ยังไม่เคยทำ เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ จึงเสนอให้ตั้งอนุกรรมการมาพิจารณาตามกฎหมายกำหนด 6.ถ้ารัฐบาลมีเงินเยอะ สามารถจ่ายได้โดยที่ประชาชนไม่เดือดร้อน กรรมการโรคติดต่ออาจจะเสนอให้รัฐบาลรับภาระทั้งหมด และในการแก้พรบ.โรคติดต่อที่อยู่ในชั้นกฤษฎีกา อาจแก้กฎหมายให้ตัดข้อความนี้ออกได้ เพื่อให้ไม่เป็นประเด็นที่ต้องนำมาปฏิบัติ 7.เสนอด้วยเจตนาดี คิดถึงประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
“มีคนเปรียบกับ ขับรถชนคนตาย คนขับบาดเจ็บ รัฐรักษาฟรี หรือไม่ คำตอบคือ ฟรี เพราะไม่มีกฎหมายให้เป็นภาระค่าใช้จ่าย แต่กฎหมายโรคติดต่อกำหนดให้เป็นความรับผิดของผู้นำเข้ามา ไม่ใช่ ไร้มนุษยธรรม อำนาจนิยม หรือทำให้คนป่วยหลบหนี ไม่ร่วมมือการควบคุมโรคความจริงที่รู้กันดี คือคนทำผิด เขาไม่ให้ความร่วมมือมาแต่ต้นอยู่แล้ว จึงเกิดการระบาดรอบนี้ขึ้นอีก ด่านปิดมาเป็นปีก็ลักลอบออกไปแล้วติดเชื้อกลับมา นี่คือประเด็นที่เสนอให้ช่วยกันคิดโดยเจตนาดี ซึ่งชัดเจน แต่กลับมีบางคนเข้าใจผิดหรือบิดเบือนไป” นายศุภชัย กล่าว
