“วิษณุ” ชี้ ก่อนผู้ว่าประกาศเคอฟิว ต้องแจ้งนายกก่อน เผย สมุทรสาครโมเดล ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเตรียมนำใช้กับจังหวัดอื่น
เมื่อเวลา 09.12 น. วันที่ 14 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในรอบใหม่ยังอยู่ในระยะที่หนึ่งโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ยังมีอำนาจ ใช่หรือไม่ ว่า ตอนนี้มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาและยังไม่จำเป็นที่นายกฯจะต้องลงไปสั่งการ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด สามารถประเมินสถานการณ์และออกข้อกำหนดของตัวเองได้ โดยที่ส่วนกลางจะออกข้อกำหนดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้เพื่อคุมการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่เท่านั้น และการออกข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดเอง ก็มีข้อเสียเพราะมาตรฐานที่ออกมาจะไม่เหมือนกัน และแพทย์ก็ไม่สบายใจ
แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน ทั่วประเทศเนื่องจากมีการแบ่งประเภทพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัดกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด เวลานี้ยังสามารถควบคุมดูแลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ชุดเล็ก ที่มีหมอร่วมในคณะกรรมการประเมินสถานการณ์อยู่ทุกอาทิตย์ โดยรับฟังข้อกังวลของหมอมาประกอบการพิจารณาด้วยเนื่องจากเกรงว่าการควบคุมจะเป็นคนละมาตรฐาน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา จังหวัดไหนที่ปัญหาน้อยก็เข้มน้อย และเวลานี้เราต้องเพ่งมาตรการไปที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงแล้วก็ จะใช้เป็นสมุทรสาครโมเดลไปดำเนินการกับจังหวัดอื่นๆต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพิจารณามาตรการเคอฟิวส์หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เวลานี้ยังไม่มีการพูดถึงหรือมีข้อเสนอ เวลานี้เพื่อนบ้านหลายประเทศมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับประเทศไทยเมื่อถึงเวลาหากจะต้องประกาศจะต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศบค. รับทราบจากนั้นแต่ละจังหวัดจึงจะไปพิจารณาประกาศในจังหวัดของตัวเอง