สุพัฒนพงษ์-วราวุธ ฝากงานผู้ว่าฯ ช่วยดำเนินการ หวังแก้ปัญหาช่วย ปชช.

สุพัฒนพงษ์-วราวุธ ฝากงานผู้ว่าฯ ช่วยดำเนินการ หวังแก้ปัญหาช่วย ปชช.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มกราคม ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลกับผู้ว่าราชการจังหวัด

โดย นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีความยากลำบากจากการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการขับเคลื่อนแนวทางการพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วงเงิน 2,400 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2564 ซึ่งมีความสำคัญในการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ซึ่งเราเล็งเห็นว่า มท.จะเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนโครงการระดับจังหวัด และจัดลำดับความสำคัญของโครงการ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในรูปแบบของคณะกรรมการที่มาจากทุกภาคส่วนของจังหวัด ชื่อคณะกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พลังงานเชิงพื้นที่ โดยเราได้กำหนดกรอบวงเงินไว้ที่ จังหวัดละ 25 ล้านบาท รวมประมาณ 1,900 ล้านบาท ในนามผู้บริการกระทรวงพลังงาน ส่งกำลังใจให้ผู้ว่าฯ ทุกท่าน ต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 หากมีสิ่งใดที่กระทรวงพลังงานจะสนับสนุนได้ เราก็ยินดีช่วยทุกประการ อย่างไรก็ตาม ฝากผู้ว่าฯ และทีมบูรณาการว่าเรื่องนี้เป็นการช่วยชุมชนฐานรากจริงๆ เม็ดเงินอาจจะไม่มาก แต่กระจายอย่างทั่วถึงจริงๆ โดยเราพยายามขยายเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ทั้งนี้ หากไม่เข้าใจหรือติดขัดตรงไหนท่านสามารถติดต่อพลังงานจังหวัดได้ตลอดเวลา

ด้าน นายวราวุธ กล่าวว่า ขอหารือ 4 ประเด็น คือ 1.การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM 2.5 ด้วยการพิจารณาจัดตั้งชุดปฏิบัติการมวลชนลงพื้นที่สร้างการรับรู้ความเข้าใจ และเข้ามามีส่วนในการลดต้นเหตุการณ์เกิดไฟป่า หมอกควัน และ PM 2.5 ร่วมกันระหว่าง ทส. ฝ่ายปกครอง ทหาร และจิตอาสาพระราชทาน รวมถึงส่งเสริมบทบาทเครือข่ายภาคประชาชน อปท. และผู้นำชุมชน รวมทั้งขอให้การลดและควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษอื่นๆ เช่น การจราจร ภาคอุตสาหกรรม ควบคู่ไปด้วย

2.การปลูกป่า/สร้างฝาย/ระบบกระจายน้ำ : พื้นที่ป่าต้นน้ำ โดยให้ทุกจังหวัดเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าตามคู่มือที่ ทส. ได้จัดทำไว้ ตามแผน 2.68 ล้านไร่ในปี 2570 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งในและนอกเขตป่าร่วมกับชุมชน อปท. และทุกภาคส่วนตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวมทั้งพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าระดับจังหวัดให้แล้วเสร็จ ภายในเดือน มกราคม 2564 การสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ป่าต้นน้ำ การจัดทำโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการปลูกป่าต้นน้ำ อีกทั้งพิจารณาประสาน อปท. ร่วมกับชุมชน จัดตั้งเรือนเพาะชำชุมชน

Advertisement

3.การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ภายใต้ คทช. โดยเร่งรัดให้เกิดการอนุญาตการเข้าทำประโยชน์ของชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 375 พื้นที่ หรือ 1,890,648 ไร่ ใน 63 จังหวัด รวมถึงสำรวจพื้นที่สนับสนุนแหล่งน้ำ และสร้างอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ คทช. นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จำนวน 4.75 ล้านไร่ ในการสำรวจและรังวัดแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้ครบถ้วนแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564

และ 4.การขออนุญาตการใช้ประโยชน์ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยการขออนุญาตการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ก่อสร้างไปก่อนได้รับการอนุญาตนั้น ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งส่วนราชการที่ยื่นคำขอจัดเตรียมรายละเอียดประกอบคำขอให้ถูกต้องครบถ้วน ให้กับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หรือสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่โดยเร่งด่วน ส่วนการขออนุญาตการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (โครงการใหม่) ขอให้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ภายใน 31 มกราคม 2564 โดย ทส. จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นภาระงานที่อยู่ในการประเมินผู้ว่าฯ แล้วทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับระทรวงพลังงานขอให้ท่านต้องดูกลุ่มเป้าหมายของแต่ละโครงการให้ดีว่าตรงไหนต้องการสิ่งใด ขณะที่ในส่วนของกระทรวงทรัพย์ฯ ขอให้ท่านเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องฝุ่นที่เป็นปัญหาของทุกจังหวัด และปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่ขอให้เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ขอให้เป็นผลงานของผู้ว่าฯแต่ละจังหวัด

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image