09.00 INDEX อภิปราย ไม่ไว้วางใจ รัฐบาล ภายใต้ การนำของ “เพื่อไทย”

เอกภาพพรรคร่วมฝ่ายค้านสัมผัสได้จาก 145 เสียงที่ร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน นายสิระ เจนจาคะ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวเฉพาะพรรค เพื่อไทยก็มีจำนวนมากถึง 105 ส.ส.เข้าไปแล้ว

นี่คือการแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพรรคเพื่อไทยอันเป็นพรรคอันดับ 1

พรรคที่หัวหน้าพรรคอยู่ในสถานะ ”ผู้นำฝ่ายค้าน”

เมื่อเอกภาพสำแดงออกอย่างเข้มแข็งเช่นนี้เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณต่อญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจว่าจะดำเนินไปอย่างเป็นระบบมากน้อยเพียงใด

Advertisement

ปมเงื่อนมิได้อยู่ที่ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมี ”เนื้อหา” เข้มข้นมากน้อยอย่างไร แค่ไหน หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือศักยภาพในการนำโดยพรรคเพื่อไทย

เมื่อประเมินผ่านการเดินหน้าร่วมลงนามในญัตติถอดถอน นายสิระ เจนจาคะ ก็พอมองเห็นคำตอบได้อย่างแจ่มชัด

นี่คือความเป็น ”ผู้นำ” ในการถือธงของ ”ฝ่ายค้าน” อย่างแท้จริง

Advertisement

การดำรงสถานะแห่งความเป็น ”ผู้นำฝ่ายค้าน” ของพรรคเพื่อไทยมิได้วัดจากจำนวน ส.ส.อันถือได้ว่าเป็น ”ปริมาณ” ที่สำคัญอันเป็นปัจจัย ชี้ขาดคือการสำแดงออกซึ่ง ”คุณภาพ”

นั่นก็คือ คุณภาพอันสะท้อน ”วิธีวิทยา” ในการจัดระบบ จัดทัพในการขับเคลื่อนไปสู้รบกับปรปักษ์ซึ่งก็คือ “รัฐบาล”

เมื่อพรรคเพื่อไทยได้คณะทำงานใหม่อันประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี

ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นคาดหวังเป็นอย่างสูงย่อมเป็น ”วิธีวิทยา” ที่คนเหล่านี้จะนำบทเรียนอันสะสมมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมากำนัลให้กับพรรคเพื่อไทย

นั่นก็คือ ความใจกว้างในฐานะอันเป็นพรรคใหญ่ นั่นก็คือ การยอมรับต่อวิธีวิทยาใหม่ๆในทางการเมือง

ญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปนี่แหละคือหินลองทองอันคมแหลม

กลยุทธ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านเด่นชัดยิ่งว่า เป็นกลยุทธ์ที่จะชี้ให้เห็นถึงความบกพร่อง ล้มเหลวของรัฐบาลภายใต้การนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ด้วย ”ปริมาณ” ที่มีย่อมไม่อาจโค่นล้มได้ภายในพริบตา แต่ด้วย ”คุณภาพ” ในการจัดเรียงเนื้อหาคือปฏิบัติการ ”ไฟสุมขอน” การเมือง

เมื่อกระพือถึงจุดอันเหมาะสมย่อมลุกโพลงสว่างไสว

เป้าหมายย่อมรวมศูนย์ไปยังความล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้พ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image