‘ชวน’ เข้าร่วมประชุมกก.สมานฉันท์ ชี้ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาล-ฝ่ายค้าน แต่เป็นปัญหาบ้านเมือง-ปชช. ยึดหลักปชต. 2 สัปดาห์รายงานความคืบหน้า
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา มีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการสมานฉันท์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกรรมการทั้ง 11 คน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยก่อนที่การประชุมจะเร่ิมขึ้นมีการหารือนอกรอบระหว่าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการหลักสูตรพื้นฐานการแก้ปัญหาความขัดแย้ง โรงเรียนพัฒนาผู้นำสู่สันติธรรมรักสคูล จ.ขอนแก่น ทั้งนี้มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมหารือด้วย โดยมีข้อสรุปสั้นๆ ว่าจะไม่เลือกประธานกรรมการสมานฉันท์ ในการประชุมนัดแรกนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับในการประชุมนัดแรกนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมการประชุมด้วย พร้อมกล่าวว่า ตนขอให้กำลังใจทำงาน เพราะงานอย่างานนี้ไม่ใช่ที่บันดาลได้ และกรรมการยังไม่ทำงาน แต่ถูกมองว่าล้มเหลว เนื่องจากไม่มีฝ่ายค้าน แต่ตนมองว่าการทำงานกรรมการไม่ใช่ความขัดแย้งของฝ่ายค้านกับรัฐบาล แต่เป็นปัญหาของบ้านเมือง ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันระดมความคิดเห็น เพื่อบรรเทาเหตุการณ์ความไม่สงบและความขัดแย้งของบ้านเมือง แม้ไม่มีฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม ส่วนที่ไม่มีผู้ชุมนุมนั้นก็ต้องยอมรับว่าไม่รู้จะประสานกับใครได้โดยตรง
“ผมหวังในภารกิจ แต่ไม่ได้หวังผลเลิศ แต่สิ่งที่อยากเห็นคือการมีโอกาสพูดคุยและรู้ข้อเท็จจริงร่วมกัน ฟังผู้รู้ให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ แต่ละฝ่ายให้ความเห็น รวมถึงเห็นความสำคัญของความสงบ ประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ใช่ของกลุ่มหรือพรรคหรือส่วนบุคคล แต่คือประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศเป็นเป้าหมายสำคัญและขอให้ยึดการปกครองประชาธิปไตยเป็นหลักในการพิจารณา ไม่ทำให้ถูกเป็นผิดหรือผิดเป็นถูก” นายชวน กล่าว
นายชวนกล่าวด้วยว่าสำหรับที่มาของคณะกรรมการสมานฉันท์ เกิดจากการยื่นญัตติในที่ประชุมรัฐสภา เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2563 ที่มีสถานการณ์การชุมนุม และมีความเห็นว่าควรจะมีกรรมการเพื่อแก้ปัญหา และหาวิธีป้องกัน ซึ่งในอดีตเคยมีปลุกระดมผ่านสื่อวิทยุ รวมถึงในอนาคตมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียตัดต่อข้อความหรือรูปภาพจนทำให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้การแก้ปัญหาไม่ควรทำเป็นเรื่องเฉพาะหน้า แต่ให้มองถึงอนาคตด้วยว่าจะป้องกันได้อย่างไร นอกจากนั้นขอให้ยึดมั่นในกฎหมายและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
“ผมสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์และจะติดตามทุกระยะ ทั้งนี้ขอให้กรรมการช่วยรายงานการดำเนินงาน เมื่อทำงานครบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลายฝ่ายไม่หวัง แต่ผมหวังและประชาชนหวังว่าระดับบุคคลไม่ธรรมดา ความคิดประสบการณ์ที่สูง จะส่งให้บ้านเมืองเข้าใจ และประสานกันดีขึ้นมากกว่าที่ผ่านมา ผมหวังแบบนั้น” นายชวน กล่าว
ทั้งนี้ นายชวน ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนที่ให้รายงานความคืบหน้าให้ตนรับทราบ ใน 2 สัปดาห์นั้นไม่ใช่การแทรกแซง เพียงแค่ให้รายงานเพราะยังมีรายละเอียดของการทำงาน เช่น การตั้งกรรมการสมานฉันท์ส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ และฝ่ายผู้ชุมนุม ที่ตนต้องลงนามแต่งตั้งเพิ่มเติม อย่างไรก็ดีการทำงานนั้นตนได้ย้ำให้ยึดหลักประชาธิปไตย และยึดกฎหมาย เพราะกรรมการฯ ดังกล่าวมาจากฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งนี้การทำงานของกรรมการนั้นไม่ได้กำหนดกรอบเวลาให้ทำงานสิ้นสุดเมื่อใด
เมื่อถามว่าการที่ฝ่ายค้านและกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เข้าร่วมทำให้ไม่สำเร็จ นายชวน กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่าฝ่ายค้านไม่ขอเข้าร่วม ไม่ใช่ว่าตนเลือกปฏิบัติ อย่างไรก็ตามในการทำงานของกรรมการ อาจแต่งตั้งอนุกรรมการหรือคณะทำงานโดยขอความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ได้