สภาเข้มวันประชุม ยกระดับป้องโควิดสูงสุด ด้าน ส.ส. 5 พื้นที่สีแดงต้องแสดงผลตรวจ ด้าน ‘จอมขวัญ’ สมุทรสาครลาประชุมทั้งสัปดาห์ให้เพื่อนสบายใจ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มกราคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าทางเจ้าหน้าที่มีการใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่จากสำนักบริการทางการแพทย์รัฐสภาตั้งจุดคัดกรอง ส.ส. ผู้ติดตาม และบุคคลภายนอก 3 จุด ได้แก่ บริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภาฝั่งสุริยันชั้น 1 ชั้นบี1 และชั้นบี2 มีการสอบถามประวัติส่วนตัวว่ามาจากพื้นที่ใด และมีอาการไข้หรือไม่ พร้อมทั้งตรวจวัดไข้ ก่อนจะสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะเพื่อเช็กอินก่อนเข้าอาคาร และเดินผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้ง สำหรับส.ส.และผู้ติดตามคนใดหากมีอาการไข้ ไอ จามจึงจะตรวจ rapid test ขณะที่คนที่มานากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มาจาก 5 จังหวัดได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด จะต้องมีใบรับรองผบการตรวจจากแพทย์ไม่เกิน 7 วัน มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะต้องตรวจ rapid test ก่อนเข้าห้องประชุมสภา ขณะที่บริเวณชั้น 2 หน้าห้องประชุมสุริยันที่เป็นจุดตรวจ rapid test แม้ว่าทางสภาจะไม่บังคับ ส.ส.ทุกคนตรวจ แต่ส.ส.ส่วนใหญ่ก็มีความประสงค์ที่จะตรวจเพื่อความมั่นใจก่อนเข้าร่วมประชุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาก็เดินตรวจตราพื้นที่อย่างเข้มงวดประจำทุกจุดที่มีทางเข้าออก
นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกประกาศ 8 ข้อเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ พร้อมกล่าวว่า หลักเกณฑ์การคัดกรองที่สภาใช้วันนี้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และถือเป็นการยกระดับการป้องกันขั้นสูงสุด กลุ่มเป้าหมายที่คัดกรองเป็นพิเศษคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากสมาชิกเป็นบุคคลที่เดินทางไปต่างจังหวัดและลงพื้นที่พบปะผู้คนจึงเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตามมั่นใจว่ามาตรการที่ใช้วันนี้จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้เกิดขึ้นในรัฐสภาได้ พร้อมขอความร่วมมือทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวดและขออภัยในความไม่สะดวก
ด้าน น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนได้ลาการประชุมในสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ เนื่องจากเป็นส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดังนั้นจึงลาการประชุมเพื่อให้เพื่อสมาชิกรัฐสภาเกิดความสบายใจ และจะเข้าร่วมการประชุมสภาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ตนยังคงเดินหน้าทำงานในพื้นที่ โดยเฉพาะการดูแลประชาชนในพื้นที่ โดยนำหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ไปให้ตามพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ เช่น วัด โรงเรียน และหมู่บ้านพร้อมทั้งระมัดระวังและดูแลตนเองเป็นพิเศษ โดยได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลอยู่ตลอด ซึ่งสุขภาพยังแข็งแรงดี
