ได้เฮ! มติเห็นชอบจ่ายเงินชดเชย ผู้ได้รับผลกระทบโครงการฝายหัวนา – ‘เฉลิมชัย’ เร่งนำเข้าครม.

‘รมว.เฉลิมชัย’ โชว์ฟอร์มปิดจ๊อบแก้ปัญหาโครงการฝายหัวนา ศรีสะเกษ หลังผู้ได้รับผลกระทบเรียกร้องมานาน 29 ปี โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา มีมติเห็นชอบจ่ายค่าชดเชยที่ดิน ลั่นจะเร่งนำเข้าขอมติ ครม.โดยไว

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.64 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา ครั้งที่ 1/64 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมทั้งมีการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ไปยังจังหวัดศรีสะเกษ และส่วนราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฝายหัวนา ได้เห็นชอบร่วมกันใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ หนึ่ง เห็นชอบรายชื่อราษฎรผู้มีสิทธิ์ได้รับค่าทดแทน 82 แปลง เนื้อที่ 422 ไร่เศษ จำนวนเงิน 52.78 ล้านบาท สอง เห็นชอบรายชื่อผู้ครอบครองที่ดินและมีสิทธิ์ได้รับค่าขนย้าย 22 แปลง เนื้อที่ 206 ไร่เศษ จำนวนเงิน 9.29 ล้านบาท และ สาม เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชยกลุ่มละ 3 คน

ด้าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อไปนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้เร่งนำเสนอขอมมติคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการจ่ายเงินค่าทดแทน และค่าขนย้ายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากผลที่เกิดขึ้นจากการประชุมครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของความสำเร็จในการเร่งให้ช่วยเหลือราษฎรในโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ต่อสู้เรียกร้องมานาน 29 ปี และได้มาประสบความสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้

“ในส่วนการแก้ไขปัญหาการจ่ายค่าชดเชยค่าทดแทนในพื้นที่อื่นๆ อาทิ เขื่อนราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังดำเนินแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยจะเร่งจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบการช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องโดยเร็วต่อไป” ดร.เฉลิมชัย กล่าว

Advertisement

สำหรับโครงการฝายหัวนา เป็นส่วนหนึ่งของระบบผันน้ำลำน้ำมูลโครงการโขง-ชี-มูล ดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2532 ตั้งอยู่บ้านกอก ตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นฝายคอนกรีตพร้อมติดตั้งประตูระบายน้ำ จำนวน 14 บาน เก็บกักน้ำในลำน้ำมูลได้ประมาณ 96.65 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ + 112.00 ม.รทก. มีพื้นที่น้ำท่วม ใน 6 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอยางชุมน้อย อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอราษีไศล อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในสองฝั่งของลำน้ำมูล ความยาวประมาณ 264 กิโลเมตร โครงการเริ่มดำเนินการก่อสร้าง พ.ศ.2535 ถึง พ.ศ.2543 โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ต่อมา พ.ศ.2546 ได้โอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามพระราชกฤษฎีกา โอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image