ครม. ผ่าน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. พร้อมเข้าสภา แก้ไขอำนาจหน้าที่ ไม่ให้ ตร.ตกอยู่ใต้อาณัติของใคร

ครม. ผ่าน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. พร้อมเข้าสภา แก้ไขอำนาจหน้าที่ ไม่ให้ ตร.ตกอยู่ใต้อาณัติของใคร

เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 19 มกราคม เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงแก้ไขแล้วและให้เสนอรัฐสภาต่อไป พร้อมกับให้ส่งความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนไปยังคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประสานการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการของรัฐสภาต่อไป

นายอนุชากล่าวว่า โดยร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. เป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 เกี่ยวกับการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ และการพิจารณาบำเหน็จความชอบให้มีหลักการที่ชัดเจน โดยได้เพิ่มบทเฉพาะกาลไว้ในร่างมาตรา 116 วรรคท้าย เพื่อเร่งรัดให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำหนดการประเมินความพึงพอใจในการบริการประชาชนให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

นายอนุชากล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. เป็นการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้านกระบวนการยุติธรรม ในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ อำนาจและภารกิจของตำรวจให้เหมาะสม และแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าข้าราชการตำรวจจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย และการพิจารณาบำเหน็จความชอบตามระบบคุณธรรมที่ชัดเจน โดยพิจารณาแต่งตั้งและโยกย้ายต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน

ADVERTISMENT

“เพื่อให้ข้าราชการตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีอิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มีประสิทธิภาพและภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นควรให้ส่งความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนที่มีมติเห็นควรให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญาตามร่างพระราชบัญญัตินี้แล้ว โดยมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดให้นำเงินกองทุนไปใช้จ่ายได้เฉพาะในส่วนที่มีงบประมาณไม่เพียงพอ หรือไม่อาจใช้จากเงินงบประมาณได้

“กำหนดให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาอนุมัติการนำเงินค่าปรับส่งเข้ากองทุน และการจัดทำบัญชีและรายงานการเงินประจำปีของกองทุน ไปยังคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อประสานการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการของรัฐสภาอีกด้วย” นายอนุชากล่าว

ADVERTISMENT

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘โฆษกรัฐบาล’ ชี้ เวทีซักฟอกเป็นโอกาสดี ไขข้อข้องใจฝ่ายค้าน-ปชช. สร้างความมั่นใจบริหารงานโปร่งใส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image