เปิด 13 กิจการ-สถานที่ กทม.สั่งให้ยังต้องปิดบริการอยู่
วันที่ 21 ม.ค. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2564 ว่า จากที่ กทม.ออกมาตรการควบคุมสถานที่เสี่ยงที่ผ่านมา โดยพบผู้ป่วยสูงสุดที่ 49 รายต่อวันในช่วปลายปีและต้นปี จนมาถึง 10 กว่ารายต่อวันซึ่งใช้เวลาควบคุมได้เร็วกว่าการระบาดครั้งแรก จึงขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร โดยผู้ว่าฯ ผู้บริหาร ได้มีการพูดคุยกับคณะแพทย์ มีการผ่อนปรน 13 สถานที่ ผ่อนปรนที่ให้เปิด แต่ต้องมีมาตรการควบคุม (คลิกอ่าน)
ส่วนสถานที่ที่ยังต้องปิดอยู่ มีดังนี้
1 สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการใด ที่เปิดลักษณะคล้ายสถานบริการ
2.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ ตลาดนัด
3.สนามมวย
4.โต๊ะสนุ๊ก บิลเลียด
5.สนามม้า
6.สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
7.สนามชนโค สนามปลากัด หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
8. สถานรับเลี้ยงเด็ก ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติ
9.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ
10. สถานประกอบกิจการอาบอบนวด
11.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน
12. สวนน้ำสวนสนุก
13.อาคารสถานที่ โรงเรียนสถาบันกวดวิชา สถาบันการศึกษาทุกประเภท
“เป็นสถานที่ที่ยังคงมีความเสี่ยง เป็นไปตามข้อกำหนดที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ออก เรื่องเวลาในการขายอาหาร เรื่องของการเปิดโรงเรียน เรื่องของการเปิดสถานบริการ เหล่านี้จะต้องเสนอ ศบค.ใหญ่ ซึ่งหากมีการอนุมัติในอนาคตว่าได้หรือไม่ได้ก็จะมีการแถลงอีกที” ร.ต.อ.พงศกร กล่าว
นพ. วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวว่า แนวโน้มผู้ป่วย กทม.สอดคล้องกับประเทศคือ ลดลง ที่ผ่านมา กทม.ร่วมมือกับ สธ.เพื่อยุติปัญหาให้เร็วที่สุด คือการพยายามควบคุมไม่ให้มีการลุกลามของผู้ป่วย ส่งผลให้ผู้ป่วยลดลงตามลำดับ ในขั้นต่อไป จะมีการเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น จะทำการสำรวจทางระบาดวิทยาอย่างเร็ว ในจุดที่คิดว่าจะมีจุดเสี่ยงซ่อนอยู่ จะค้นหาสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่ โดยการทำการสุ่มตรวจน้ำลาย ตั้งเป้าหมาย 5 เขต ภายใน 12 ก.พ. จะตรวจสอบได้ทั่วพื้นที่ กทม.
