“สงคราม” จี้งบเยียวยา 3 แสนล้านต้องถึงมือคนที่เดือดร้อนจริงๆ

“สงคราม” จี้งบเยียวยา 3 แสนล้านต้องถึงมือคนที่เดือดร้อนจริงๆ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ภาพที่ออกมาคือพบว่า เศรษฐกิจลดลงจากที่เคยประมาณการไว้แต่เดิมแล้ว ที่จะมีผลทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ผลจากมาตรการที่รัฐบาลออกมา ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทย อย่างรุนแรงทั้งนี้มีการประมาณการว่า กลุ่มแรกคือกลุ่มคนทำงาน จะมีประมาณ 3.5 ล้านคน ที่จะถูกลดเวลาทำงานและส่งผลกระทบกับรายได้ลดลงอย่างรุนแรงจนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและความสามารถในการชำระหนี้สิน กลุ่มสอง ประมาณ 1.1 ล้านคน จะกลายเป็น “คนเสมือนว่างงาน” คือทำงานไม่เกิน 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่งผลให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ส่วนใหญ่จะเป็นลูกจ้างนอกภาคเกษตรและผู้ประกอบอาชีพอิสระเป็นหลัก

นายสงคราม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในกลุ่มที่สามประมาณ 1 แสนคน จะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงในการตกงานสูงมาก ได้แก่ ลูกจ้างในสาขาโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักในการระบาดของโควิด-19 ทั้ง 2 รอบ และไม่สามารถประมาณการได้ว่าฟื้นตัวเมื่อไหร่ ทั้งนี้เมื่อรวมยอดแรงงานที่จะได้รับกระทบในรอบนี้ทั้งหมดข้างต้นเข้าด้วยกันแล้วจะตกประมาณ 4.7 ล้านคน และเมื่อรวมกับตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรอบแรกที่ประมาณการไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอีก 2.2 ล้านคน ก็จะเท่ากับ 6.9 ล้านคน ดังนั้นมาตรการช่วยเหลือประชาชนยอย่างถาวรคือการสร้างงานขึ้นมาใหม่หรือทำให้รายได้ของแรงงานสูงขึ้นมาใหม่ การปลุกเศรษฐกิจทั้งระบบคือประเด็นสำคัญ นอกจากนี้ มาตรการเยียวยา ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะหน้า เพื่อช่วยเหลือเจือจานหรือต่ออายุให้แก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้โครงการเยียวยา ที่รัฐใช้เงินงบประมาณอีกประมาณ 3 แสนล้านบาทเศษๆนั้น จะต้องถึงมือแรงงานทั้ง 7 ล้านคน ที่ว่านี้ด้วยเป็นส่วนใหญ่ กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ แต่คนที่ไม่สมควรเลยกลับได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการเยียวยาที่ไม่ครอบคลุมผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image