เปิดทฤษฎีชิงผู้ว่าฯกทม. ‘ใคร’ มาแรง ล้ม ‘คนดัง-พรรคหลัก’ คว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.

เปิดทฤษฎีชิงผู้ว่าฯกทม. “ใคร” มาแรง ล้ม”คนดัง-พรรคหลัก” คว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.

หลังจากเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ 28 มี.ค. จากนั้นอีก 90 วันจะเป็นการเลือกตั้ง “อบต.” จากนั้นอีก 30 วัน จะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

บวกลบคูณหาร จะตกประมาณไตรมาส 4 ของปีนี้

ว่าที่ผู้สมัครหลักๆ ในรอบนี้ เท่าที่เปิดตัวมา ได้แก่ เครือข่ายพลังประชารัฐ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นางทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ได้รับการสนุนจาก ส.ส.กทม. พปชร. กลุ่ม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาฯ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส

นอกจากนี้ ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน สนใจจะลงสมัครในสายของ พปชร.ด้วย
น่าสังเกตว่า เกิดอาการเบียดเสียดขึ้น ของว่าที่ผู้สมัครของพรรคนี้ ซึ่งกวาดเสียงมาได้ 25.5% ของผู้ออกมาใช้สิทธิ 3.1 ล้านคน ในการเลือกตั้งเดือน มี.ค.2562

Advertisement

พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้เสียง 15.3% ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด ยืนยันส่งผู้สมัคร แต่ยังไม่มีการสรุปว่าเป็นใคร

ว่าที่ผู้สมัครที่โดดเด่น ยังได้แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็น 1 ใน 3 ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง มี.ค.2562
พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียง 19.49% ในการเลือกตั้ง 2562

อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติ จะลงสมัครอิสระ ไม่ลงในนามพรรคเพื่อไทย

Advertisement

และที่น่าจับตา คือพรรคก้าวไกล ซึ่งได้คะแนนเสียง 25.93% ในการเลือกตั้ง ส.ส.ล่าสุด ประกาศความพร้อม ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. และส่ง ส.ก.ชิงเก้าอี้ใน 50 เขต

เป็นการลงสมัครในนามพรรค เล็งปักธงใน กทม.อย่างจริงจัง

***********

นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ ที่วางมือจากการเมืองไประยะหนึ่ง แต่ยังเฝ้าสังเกตการณ์การเมืองการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด

ในปี 2562 เขาเป็นคนแรกๆ ที่ชี้ถึงกระแสไหลแรงของพรรคอนาคตใหม่ และสุดท้ายพรรคน้องใหม่ กลายเป็นม้ามืดวิ่งเข้าป้ายด้วยจำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับ 3 รองจากเพื่อไทย และพลังประชารัฐ

สำหรับสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่จะเกิดขึ้น นายวิวรรธนไชย กล่าวว่า สนามนี้จะไม่เหมือนการเลือกตั้งอบจ. ที่ “ก้าวหน้า” พลาดนายก อบจ.ทุกสนาม

เนื่องจากสนาม อบจ.ไม่มีกระแส เป็นเรื่องในพื้นที่ และหลายพื้นที่มีเรื่องของการซื้อเสียงมาเกี่ยวข้อง
ต่างจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้รับความสนใจจากสื่อทั้งหมด ทำให้เกิดเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป กลายกระแสที่เร่งเร้าให้ทุกฝ่ายออกมามีส่วนร่วม

การเมืองในภาพรวม ยังทำให้สนามนี้มีความหมายมากขึ้นในครั้งนี้

หากผู้สมัครมี 5 คน จากพรรคหลัก สำหรับ พปชร.จะเกิดการแย่งคะแนนกันเองอย่างดุเดือด และเกิดสภาพคะแนนลด จากความรู้สึกของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล

ส่วนคณะก้าวหน้า คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ไม่มีการลดลง

จากคนรุ่นใหม่ที่จะเริ่มมีสิทธิเลือกตั้ง จากผู้ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงใน กทม. จากฐานเดิม และผู้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ของพรรค

นายวิวรรธนไชยกล่าวว่า อาจกล่าวได้ว่า จากคน กทม. 3 คน 1 คนจะเลือกก้าวไกล ส่วน 2 คน จะแบ่งกันไปในผู้สมัคร 5 คน

จากคะแนน 25.93 เปอร์เซ็นต์ อาจจะเพิ่มได้อีก 5% จากคะแนนเสียงเดิมจากเลือกตั้ง 2562 จำนวน 804,272 คะแนน อาจพุ่งไปถึง 1 ล้านเสียง

และกลายเป็นผู้ชนะไป

ขณะที่ตัวเต็ง อย่างนายชัชชาติ ที่มีโอกาสจากผู้สนับสนุนเพื่อไทย และคะแนนนิยมส่วนตัว อาจประสบปัญหาจากการที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำ กทม. ออกจากพรรคไป และอาจต้องแบ่งคะแนนกับผู้สมัครรุ่นใหม่จากกลุ่มก้าวหน้า

นายวิวรรธนไชย ระบุว่ากลุ่มก้าวหน้าจะต้องเร่งหาผู้สมัครที่เหมาะสม เมื่อรวมกับคะแนนนิยมโดยรวมจากกระแสการเมือง จะมีโอกาสมากกว่าผู้สมัครอื่นๆ

************

นั่นคือ ทรรศนะและทฤษฎีจากผู้สังเกตการณ์การเมือง ที่เสนอข้อสังเกตน่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ยังเหลือเวลาอีกระยะหนึ่งที่ยาวนานพอสมควรกว่าการเลือกตั้งจะมาถึง

จากนี้ไป ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ย่อมหาทางพลิกสถานการณ์ เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์มากที่สุด

จะพลิกได้-ไม่ได้แค่ไหน และอย่างไร นั่นหมายถึงโอกาสทางการเมืองครั้งสำคัญ ในสนามเลือกตั้งที่ร้อนแรง

เป็นรองแค่การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image