พิธา อุบชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แย้มสเปกเป็นคนรุ่นใหม่-ไม่มีอิทธิพล-มีแนวคิดบริหารมหานครแบบใหม่
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 23 มกราคม ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เขตบางขุนเทียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวถึงการวางตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม.ว่า ในส่วนของว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) มี นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงค์วุฒิ เป็นประธานในการสรรหา ซึ่งจะส่งทั้งหมด 50 เขตแน่นอน ตอนนี้ 90% แล้วในการหารือกัน ตอนนี้ได้ทำงานลงพื้นที่ในส่วนของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เราดำเนินการมาตั้งแต่กลางปี 2563 แล้ว ซึ่งมีผู้คัดเลือกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้อยากใช้เวลาในการเฟ้นหาว่าที่ผู้สมัครที่ใหม่ ชัด โดน คือ มีความใหม่ ต่างจากสเปกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนเก่าๆ ที่เน้นเข้าถึงการคมนาคมที่เป็นของแข็ง แต่มองว่า ต้องมีความเข้าใจคน กทม. ความท้าทายใหม่ๆ มากกว่า ไม่ใช่นำงบประมาณมาสร้างโน่นสร้างนี่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจคน กทม. อย่างแท้จริง เพราะ กทม. เป็นมหานครที่มีความเหลื่อมล้ำสูง อย่างไรก็ตาม จะไม่รีบเปิดตัวเร็ว เพราะเปิดตัวไปก็ซ้ำเปล่าๆ อยากเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้คนกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้น คงไม่ให้เรื่องของเวลา หรือการที่ใครเปิดตัวก่อนมากดดันกระบวนการเฟ้นหาคนของเรา
เมื่อถามว่าที่มีการเปิดตัวไปแล้วอย่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เรามีสเปกที่จะไปสู้เขาอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ต้องไม่เหมือนกับที่มีมา ต้องมีความใหม่ ชัด โดน ถ้าใครติดตามเรื่องการเมืองก็จะรู้ว่า คน กทม. เรื่องการเมืองไม่เหมือนคนทั่วประเทศ เพราะเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เยอะ และมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ นั่นไม่ได้หมายความว่า การเปิดตัวก่อนแล้วจะได้เปรียบ ดังนั้น เรื่องเวลาเราไม่ติดใจ แต่แน่นอนว่าเรื่องสเปกที่ออกมาจะต้องมีความต่าง ซึ่งอาจจะเป็นคนที่รู้เรื่องสิ่งแวดล้อม PM 2.5 และทำงานร่วมกับ ส.ส.ของพรรคได้ อีกทั้ง เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิธีคิด บริหารมหานครแบบใหม่ๆ
เมื่อถามว่าความใหม่ ชัด โดนที่เราตั้งไว้กับคนที่มีการเปิดตัวจะสู้ได้กับผู้มีอิทธิพล ข้าราชการหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงต้องถามประชาชนจะเอาแบบที่มีชื่อเสียง มีอิทธิพล ตำรวจ ทหาร กับพรรคการเมืองแบบเก่าๆ หรือไม่ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะถ้าเขามีนโยบายที่ตอบโจทย์กับ กทม. ในปัจจุบัน แต่ทางเราไม่จำเป็นต้องมีอิทธิพล และต้องทำงานแบบไร้รอยต่อกับ ส.ส.ของพรรคเรา ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเก่งแค่ไหน แต่กฎหมายไม่อนุญาตก็ทำไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นลูกท่านหลานเธอ หรือมีคอนเนคชั่นกับตำรวจ ทหาร ซึ่งตอนนี้มีชื่ออยู่แล้วอุบไว้ก่อน ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดเผยชื่อได้เมื่อไรคงต้องดูจังหวะการเมือง
