‘อนุสรณ์’ ชี้ ตำรวจล็อคคอ-ใช้ความรุนแรงกับ ปชช. ไม่ใช่เรื่องปกติ
เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี กลุ่มลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ เดินเท้าจาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มายังบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อปักหลักชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่ลุแก่อำนาจ ดำเนินการเกินจากกรอบของกฎหมาย
นายอนุสรณ์กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมนักกิจกรรม 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นเยาวชน อายุ 17 ปี ขณะติดสติ๊กเกอร์รณรงค์ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยนำตัวไปที่ สน.สำราญราษฎร์ ประชาชนที่ติดตามสถานการณ์ไม่สบายใจ ที่นักกิจกรรมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการล็อกคอ โดยตำรวจบอกว่าการล็อกคอเป็นเรื่องปกติ ซึ่งนักกิจกรรมสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ กรณีที่มีการล็อกคอ
อ่านข่าว : ตร.ล็อคคอ 3 นักกิจกรรม ติดสติ๊กเกอร์อนุสาวรีย์ปชต. ปรับผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ
– ตำรวจอนุญาต ลูกบ้านโป่งค้างแรมข้างทำเนียบได้ ขอเว้นระยะห่างทางสังคม
– กลุ่มลูกบ้านโป่งฯ แถลงการณ์ไล่ ‘ประยุทธ์’ ชี้เรียก ‘ยาม’ ยังให้เกียรติมากไป ยุติชุมนุมสมทบกลุ่มคราฟต์เบียร์(มีคลิป)
“การใช้ความรุนแรง หรือดำเนินการอื่นเกินจากกรอบของกฎหมายซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายเอาผิดกลุ่มผู้จัดกิจกรรม ในข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค หรือผิดกฎหมายใด อย่างตรงไปตรงมาก็ดำเนินการไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิทำร้ายร่างกาย ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมที่รัฐธรรมนูญรับรองและคุ้มครองไว้
“จากนี้ไปจะมีอีกหลายม็อบ ทั้งกลุ่มเยาวชนนักศึกษา กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากรัฐบาล ออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตั้งสติ อดทน อดกลั้น และบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา” นายอนุสรณ์กล่าว
