ฟัง ‘บิ๊กตู่-รมต.’ ตอบปมญัตติซักฟอกเดือด ‘บิ๊กป้อม’ ถามมีอิทธิพลอะไร เดินจะไม่ไหว
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รมต. มีความเห็นจากบรรดา รมต.ต่อเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ม.ค. อย่างเช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เห็นคนพูดกันมากมายทั้งทางสื่อโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ต่างๆ ตนคิดว่าเรื่องนี้คงไม่ตอบตรงนี้ เพราะเป็นเรื่องของในสภาฯที่จะต้องมีการอภิปราย ซึ่งตนได้เตรียมหลักฐานและคำชี้แจงไว้ทั้งหมดแล้วในส่วนของตนที่เป็นนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สำหรับกรณีที่จะมีการอภิปรายเรื่องงบประมาณของกองทัพนั้น ตนมองว่าเรื่องงบประมาณต่างๆอยู่คนละขั้นตอน และเป็นเรื่องการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่มีการเสนอแผนงานโครงการและมีการแก้งบประมาณเพื่อคัดกรองก่อนที่จะนำเข้ามาพิจารณาในสภาฯตามวาระ
“เรื่องการอภิปรายฯผมเห็นเสนอข่าวกันโครมครามก็ว่ากันไปในสภาฯเพราะผมยอมรับในหลักการรัฐสภาอยู่แล้ว อำนาจเขามีก็ทำไป ผมก็มีหน้าที่ชี้แจง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ปฏิบัติก็ชี้แจงไปเท่านั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านเล็งเรื่องงบฯกองทัพในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เล็งมาก็เล็งมา ผมชี้แจงไปก็เท่านั้นเอง เพราะเหตุผลความจำเป็นก็มีอยู่แล้วว่าเราดำเนินการและมีขั้นตอนอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา หลายอย่างก็ไม่ใช่เฉพาะมิติด้านความมั่นคงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ด้วยที่วันนี้ไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียว
“เนื่องจากยังมีอาเซียนและประเทศอื่นด้วย ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ เราจำเป็นต้องมีอะไรบ้างหรือไม่ก็ไปว่าเรื่องความจำเป็น ขอฝากให้ช่วยกันทำความเข้าใจด้วย เราไม่ใช่ทำแต่ในประเทศเราอย่างเดียว เราต้องทำกับคนอื่นด้วย”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีมีชื่อถูกอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านระบุท่อนหนึ่งว่า พล.อ.ประวิตรทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตัวเอง ว่า “ฉันจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ยังจะไปมีอะไร” พร้อมกับยิ้มตอบไปพร้อมกัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกรณีที่มีชื่อถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เขาเขียนแล้วว่าไม่ไว้วางใจประเด็นไหน เราแค่เตรียมข้อมูล ทำการบ้านให้ดี เพื่อมาชี้แจงต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเป็นการชี้แจงต่อประชาชนทั้งประเทศด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าฝ่ายค้านมีหมัดเด็ดนอกจากประเด็นที่เปิดเผย จะทำอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเขาไม่มีหมัดเด็ดจะมาอภิปรายทำไม เราไม่กลัวหมัดเด็ดหรือไม่เด็ด เราต้องเตรียมข้อมูล เอาข้อเท็จจริง ความจริง เจตนารมณ์ที่ดีของเราที่ห่วงใยบ้านเมืองและประชาชน และพยายามป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 ทำร้ายประชาชน เราเต็มใจและพร้อมที่จะตอบโดยเอาผลงานมาอธิบายและชี้แจงสิ่งที่ประชาชนไม่เข้าใจให้เต็มที่ เพื่อคลายข้อสงสัยของผู้อภิปรายให้มากที่สุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเป็น 1 ใน 10 รัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่มีปัญหา เพราะตนเป็นนักการเมือง ไม่กลัวที่จะถูกตรวจสอบ และยินดีที่จะชี้แจงทุกคำถาม ขอเพียงโอกาสและเวลาในการชี้แจงทุกเรื่อง
“ไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะถามเรื่องอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ดีด้วยซ้ำผมจะได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ควบคู่กับการเสนอผลงานด้วย ผมมีความมั่นใจในความซื่อสัตย์สุจริตในการทำหน้าที่ เพราะคนไม่โกงไม่มีความจำเป็นต้องกลัวอะไร” นายจุรินทร์กล่าว
เมื่อถามว่า ในญัตติของฝ่ายค้านระบุว่า ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา นายจุรินทร์กล่าวว่า ข้อนี้ ตรงข้ามกับความเป็นจริง แต่ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลาก็จะชี้แจงเองอย่างเต็มที่ ว่าไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงอย่างไร
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช. มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ยังไม่ทราบว่าถูกอภิปรายเรื่องอะไร เพราะฝ่ายเขียนรายละเอียดมาแค่ 3 บรรทัด และการทำงานในกระทรวงก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลเพียง 2 กรม ส่วนตัวสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะปีเศษที่ทำงานมาถูกต้องทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ถูกต้องอยู่แล้ว แต่เท่าที่ทราบอาจจะเป็นเรื่องโครงการคงเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จ.สงขลา เนื่องจากฝ่ายค้านและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่ไป 2-3 รอบแล้ว
นายนิพนธ์กล่าวว่า ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา หากตนจะโดนคงเป็นเพราะตนไปเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านเกิดของตน หากเป็นเรื่องนี้ตนก็พร้อมที่จะชี้แจงว่าเห็นด้วยเพราะอะไร และทราบว่าโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นได้เพราะ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดใช้แดนภาคใต้(ศอ.บต.)เป็นผู้เริ่มต้น และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการหลายชุด และเมื่อตอนที่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ดำเนินการต่อ ซึ่งตนได้ประสานขอข้อมูลจาก ศอ.บต.ไปแล้ว
เมื่อถามว่า หากเป็นเรื่องคดีละเว้นไม่อนุมัติเบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อม บำรุงทางอเนกประสงค์ ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งนายก.อบจ.สงขลา นายนิพนธ์ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องนี้ ก็ดีเลย จะได้ถือโอกาสอภิปรายทุกประเด็นเนื่องจากตนมีพยานหลักฐานพร้อมชี้แจงทั้งหมด และไม่จำเป็นจะต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์แต่อย่างใด
เมื่อถามย้ำว่า กลัวจะเจอเซอร์ไพรส์จากฝ่ายค้านหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ตนพร้อมตอบทุกเรื่องแต่เชื่อว่าไม่มีอะไร
“รายละเอียดในญัตติมันสั้นไป ตอนนี้กำลังปวดหัวว่าจะทำอย่างไร ผมก็พยายามจะแกะทุกประโยค ว่าแต่ละประโยคหมายถึงอะไร ซึ่งผมไม่กังวล เพราะถือเป็นเรื่องปกติของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบ เพราะผมก็เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน ดังนั้นมีอะไรก็ต้องมาพูดกันในสภาหากไม่มีเหตุผลเดี๋ยวประชาชนก็จะรู้เอง” นายนิพนธ์กล่าว
