“ทราย” สุดเซ็ง บริจาคชุดชั้นใน-ผ้าอนามัยให้ผู้ต้องขัง สุดท้ายเข้าไม่ได้อ้างป้องโควิด แต่คนอื่นขนได้ตำตา

“ทราย” สุดเซ็ง บริจาคชุดชั้นใน-ผ้าอนามัยให้ผู้ต้องขัง สุดท้ายเข้าไม่ได้อ้างป้องโควิด แต่คนอื่นขนได้ตำตา

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มราษฎร ร่วมกับ กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก จัดกิจกรรม “ราษฎรปันสุข” บริจาคชุดชั้นในและผ้าอนามัย ให้แก่ผู้ต้องขังหญิง ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยมี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง โฆษกกลุ่มราษฎร และ น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือ ทราย นักแสดงชื่อดัง ฉายาแม่ยกแห่งชาติ พร้อมทีมงาน ร่วมกันขนของที่จะใช้สำหรับบริจาค ลงจากรถ มาวางกองไว้ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจะกลางคลองเปรม

น.ส.อินทิรากล่าวว่า ความจริงเริ่มจากรุ้ง ตอนนั้นน้องต้องอยู่ในเรือนจำ พอออกมา ได้คุยกันว่า เรื่องสุขอนามัยพื้นฐานของผู้หญ่ง อย่างผ้าอนามัย ควรเป็นสิทธิที่จะได้ฟรี แต่ก็ยังต้องซื้อกันอยู่ อีกทั้งในที่จำกัด ควรจะดูแลเขาด้วยความเป็นมนุษย์ กลายเป็นว่า ผ้าอนามัย ชุดชั้นใน ที่มีกติกาการใช้ ก็ยังเข้าไม่ถึง ในขณะที่นักโทษหญิงของไทยมีจำนวนมาก ติดอันดับ ท็อป 5 แต่การดูแลลงเหวมาก จึงควรทำให้ทั่วถึงโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอด้วยซ้ำ เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานขนาดนี้ ทำไมต้องร้องขอ

“พูดอย่างนี้ก็เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า เขาเป็นนักโทษ เขาทำผิดนะ ไม่ต้องสปอยล์มาก ไม่ต้องเอาอกเอาใจ แต่นี่คือเรื่องพื้นฐานของความเป็นมนุษย์มากๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม ถูกกักขังอิสรภาพ ก็เป็นบทลงโทษมากพออยู่แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องจำกัดเรื่องพื้นฐานในชีวิตของเขา อย่างเรื่องสุขอนามัย เพราะเขาจะได้มีวิธีคิดใหม่ ว่าเข้ามาในนี้ บทลงโทษที่ได้รับสมควรแก่เหตุแล้ว ไม่ใช่ทุกๆ วันยังต้องต่อสู้อีก แม้แต่อยู่ในคุก ซึ่งเรามองว่า มันมากเกินไปหน่อย ในความเป็นคนเสมอกัน เพราะวันนึงเขาก็ต้องออกมา มันควรเป็นแค่ที่ปรับพฤติกรรม เรื่องพื้นฐานอย่างนี้ไม่ควรต้องมาพูดกันด้วยซ้ำ มันพื้นฐานมากๆ จะอบรม สั่งสอน ลงโทษ ก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้งอกขึ้นมาโดยไม่มีงบ มีงบอยู่ ทำไมคุณไม่คิดเรื่องแบบนี้บ้าง หลายประเทศเป็นสวัสดิการด้วยซ้ำ ยิ่งไม่พูดถึง ยิ่งลืมๆ ไป ซึ่งมันไม่ใช่ เราคิดถึงการปฏิบัติต่อคนอย่างเสมอกัน ตอนรุ้งเล่าให้ฟังก็ตกใจ ว่าไม่มีได้อย่างไร ไม่ว่าจะอยู่ใน หรือนอกเรือนจำ จะเป็นดารา หรือนักกิจกรรม ก็ต้องใช้ทุกเดือน ซึ่งการลงโทษไม่ควรถึงขั้นทำให้เขาหมดความเป็นมนุษย์

Advertisement

เราอยากทำให้รู้ว่า เราสามารถดูแลเพื่อนมนุษย์ได้ในระดับปกติ ส่วนกรมราชทัณฑ์จะทำไหม อีกเรื่องหนึ่ง แต่ความเป็นมนุษย์ เราต้องดูแลกันเท่าที่จะทำได้ ใครสนใจอยากร่วมดูแล สามารถติดต่อมอบของได้” น.ส.อินทิรากล่าว

ด้าน น.ส.ปนัสยากล่าวว่า เราคิดตั้งแต่วันแรกที่ออกจากคุกมาแล้ว ว่าอยากให้ เพราะอยู่ในนั้นทำให้เห็นปัญหาหลายอย่าง อย่าง ผ้าอนามัย เราเคยให้สัมภาษณ์สื่อไปว่า ในนั้นไม่มีชุดชั้นใน-กางเกงในไซซ์ใหญ่ ไม่มีเลย โดยให้เหตุผลว่าไม่มีคนบริจาคมาให้ มีแต่บริจาคไซซ์ปกติมา ซึ่งมันทำให้เราดูแลตัวเองไม่ได้ ผู้หญิงจะใส่ผ้าอนามัยก็ต้องมีกางเกงในไว้รอง แต่อย่างคนที่เจอ ตัวใหญ่มาก ไม่มีกางเกงใน อยู่มาปีกว่า เวลาที่เขาใช้ผ้าอนามัย ต้องเอามาพับ โดยให้ด้านกาวติดกัน และใช้ผ้าอนามัยเหน็บเอา จะเลอะเทอะแค่ไหนก็จต้องดูแลตัวเองให้ได้ ซึ่งมันอนาถและหดหู่มาก นักโทษถึงเขาจะอยู่ในนั้น ถึงจะกระทำผิดมาใดใดก็ตาม ทางกรมราชทัณฑ์ต้องดูแลเขา อย่างที่เขาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ ที่ไม่แคร์

Advertisement

 

“คือมันมีมายด์เซตของผู้คุม หรือคนในนั้นเอง ที่มองว่าคนในนี้กระทำผิดมาจึงต้องได้รับการลงโทษ จึงไม่ต้องดูแลอย่างดีก็ได้ เพราะนี่คือการลงโทษของเขา ซึ่งไม่ใช่ คุกไม่ควรจะเป็นที่ลงโทษ แต่ควรเป็นที่ให้คนได้เรียนรู้ เพื่อปรับตัวเข้าสู่สังคมอีกครั้ง อย่างผ้าอานามัยมีในเรือนจำ แต่การให้แต่ละครั้ง ผู้ที่ต้องการ ต้องร้องขอ มีหลายครั้งที่ไม้ได้ ทั้งที่มีของกองกลางอยู่ โดยไม่มีเหตุผลที่เมกเซนส์ว่าทำไมไม่ให้ วันนี้จึงเอาชุดชั้นในไซซ์ใหญ่มา จะได้ไม่ต้องอ้าง กางเกงในเอามา 916 ตัว จริงๆ จะมี 1,200 ตัว แต่ยังทำไม่เสร็จ ชุดชั้นใน 500 ตัว และผ้าอนามัยประมาณ 8 ลัง

“ความจริงเราอยากให้ กรมราชทัณฑ์ ปรับมาตรฐานของคุกตัวเอง และแนวคิดทุกอย่าง ว่าคนใดๆ ที่เข้ามาในคุก ไม่ใช่ทุกคนที่กระทำผิด หรือมีความเลวบริสุทธิ์ ซึ่งรุ้งก็ไม่เชื่อว่า มีความเลวบริสุทธิ์ คนที่ลักทรัพย์ ฉ้อโกง หรืออะไรก็ตาม เพราะปัจจัยแวดล้อมทางสังคมที่บีบให้เขาทำอย่างนั้น มันคือการที่สังคมหล่อหลอมให้เขาเป็นคนอย่างไร เพราะฉะนั้น ถ้าสังคมไม่ดี เอาเขาเข้ามาในนี้ แต่ดูแลเขาเยี่ยงสัตว์ คิดว่าคนออกไปแล้ว เขาจะมีพฤติกรรมอย่างไรต่อ จะมีพฤติรรมที่ดีกว่าเดิม หรือแย่กว่าเดิม เพราะการดูแลของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ กรมราชทัณฑ์ ควรดูแลตั้งแต่เข้ามาและออกไป ว่าเขาอยู่ได้ไหม ซึ่งที่ผ่านมาปฏิบัติต่อคนอย่างไม่เป็นคน” น.ส.ปนัสยากล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกรมราชทัณฑ์ ไม่อนุญาตให้เข้าไปบริจาค
ต่อมา แฟนเพจ “ราษฎร” จึงเผยแพร่ข้อความผ่านแฟนเพจ ระบุว่า ราชทัณฑ์ปฏิเสธราษฎร! ไม่ให้นำสิ่งของจำเป็นเข้าไปมอบแก่นักโทษ

วันนี้ราษฎรได้นำชุดชั้นในและผ้าอนามัยจำนวน 500 ชุด ไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า “มีคำสั่งไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า เนื่องจากสถานการณ์โควิด” โดยไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งที่ทีมงานราษฎรจะประสานงานล่วงหน้าและยืนยันการรับของบริจาคกับทางศูนย์กลางมาก่อนแล้ว กลับถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไม่ให้เข้าไปมอบสิ่งของบริจาคเมื่อมาถึง

แต่ทันทีที่ราษฎรเดินทางกลับ ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพ ได้เปิดให้มีการเข้าเยี่ยม รถยนต์ขับเข้าออกได้ตามปกติ #ราษฎรปันสุข #ราษฎร #TheRatsadon

 

ล่าสุด ทราย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า “เป็นเรากับรุ่งเอาชุดชั้นในกับผัาอนามัยไปตรงขังหญิงนี่ ไม่ให้เข้า ยังไงก็เข้าไม่ได้ บอกห่วงเรื่องโควิดไม่รับของข้างนอก ทั้งที่โทรเช็คก่อนหน้า ไม่รู้กี่รอบว่าเอาเข้ามาได้เลย พอคล้อยหลังยังเก็บของไม่เสร็จ คนอื่นเข้าได้เฉย รถขนผัก ขนขนม คือได้หมด เออ ดี”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image