ถามจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คำตอบจาก อนุทิน ชาญวีรกูล
การตอบคำถามในเรื่อง ‘วัคซีน’ ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กำลังได้รับคำชมเป็นอย่างสูงว่าเป็นท่าทีที่ดีในทางการเมือง ไม่ว่าโดยทาง ส่วนตัว ไม่ว่าโดยตำแหน่งรัฐมนตรี
ไม่เพียงแต่สำแดง ‘วุฒิภาวะ’ ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หากแต่ยังเท่ากับเป็นการให้เกียรติต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เนื่องจากคำถามอันมาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มีจุดเริ่ม ต้นมาจากความห่วงใยว่าประชาชนไทยอาจจะได้รับการฉีดวัคซีนล่าช้า ไม่ทันกับสถานการณ์
จึงไม่เพียงแต่ตั้งข้อสงสัยต่อการดำเนินการที่มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นฝ่ายที่มีบทบาท และบทบาทนั้นย่อมอยู่ในความรับรู้ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะของรัฐมนตรี
เมื่อเป็นรัฐมนตรีซึ่งมีอำนาจเต็มจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดบังหรือเบี่ยงเบนประเด็น หากมีข้อมูลและการตกลงอย่างไรก็ชอบที่จะงัดออกมาให้เป็นที่ปรากฏ
นี่คือการตั้งคำถามอย่างมี ‘อารยะ’ และนี่คือการเสนอคำตอบอย่างมี ‘อารยะ’
ต้องยอมรับว่า ท่าทีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรือง มีการเปลี่ยนแปลงไปจากท่าทีในเบื้องต้นที่รับฟังการตั้งคำถามผ่านการไลฟ์สด
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ไม่ว่าการตั้งคำถามครั้งแรก ไม่ว่าการตั้งคำถามครั้งหลัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเป็นคนเดิม
เป็นคนเดิมที่มิได้ออกมาสงสัยหรือกล่าวหาใครอย่างเลื่อนลอย หรือมีการบิดเบือน ตรงกันข้าม อ้างอิงอยู่กับเอกสารข้อมูลทั้งในประ เทศและจากต่างประเทศเท่าที่มีอยู่ในมืออย่างครบถ้วน
เป็นการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจึงมีการอำนวยประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางบริษัทอย่างผิดปกติถึงกับอนุมัติเงินงบประมาณไปอุดหนุน
นี่ย่อมเป็นคำถามที่ประชาชนสามารถตั้งได้โดยชอบธรรม
เพราะว่าเงินอุดหนุนอันอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลเป็นเงินจาก ‘ภาษี’ ของประชาชน
ท่าทีอันเป็นมิตรระหว่างผู้ตั้งคำถามคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับผู้ตอบคำถามคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จึงถือได้ว่าเป็นท่าทีที่สร้าง สรรค์ สะท้อนมิติใหม่ในทางการเมือง
เป็นการเมืองที่ ‘อารยะ’ เป็นการเมืองที่ดำเนินไปบนจิตวิญญาณแห่งความเป็น ‘ประชาธิปไตย’ ที่ควรยกย่องชมเชย
