“เทพไท” น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. ชี้จุดอ่อนรธน. ต้องให้คดีถึงที่สุดถึงจะมีข้อยุติคุณสมบัติการเป็นส.ส

“เทพไท” น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. ชี้จุดอ่อนรธน. ต้องให้คดีถึงที่สุดถึงจะมีข้อยุติคุณสมบัติการเป็นส.ส.

เมื่อวันที่ 27 มกราคม กรณีคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติ กรณีคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6 ) ประกอบมาตรา 98 (4) และมาตรา 96 (2) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายเทพไท หยุดปฏิบัติหน้าที่ คือวันที่ 16 กันยายน 2563 และถือว่าวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยนั้นเป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 105 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 102

โดยกำหนดให้ต้องดำเนินการภายใน 45 วันนั้น คาดว่ากกต.จะกำหนดให้วันที่ 7 มีนาคม เป็นวันเลือกตั้ง และวันที่ 11-15 กุมภาพันธ์ เป็นวันรับสมัครเลือกตั้งนั้น

นายเทพไท ได้เปิดแถลงต่อมาว่า น้อมรับคำวินิจฉัยของศาลทุกประการ แต่คดีความของศาลกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน เป็นคนละประเด็นกัน หลายคนเข้าใจผิดว่านี่คือคดีอาญา ขอเรียนว่าคดีอาญาอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และก็ต้องสู้ในชั้นฏีกาอีก อย่างไรก็ตาม ในศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกตน และมีข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติจึงได้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

“ขอเรียนว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สิ้นสุด แต่คำถามต่อมาคือถ้าหากผมชนะในศาลอุทธรณ์หรือศาลฏีกา แต่ผมได้สูญเสียสถานะการเป็นส.ส.ไปแล้ว ไม่มีใครสามารถที่จะเยียวยาให้ตำแหน่งกลับคืนมาได้ ทั้งหมดไม่ได้เป็นความผิดของใคร ผมคิดว่าเป็นจุดอ่อน จุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนในลักษณะที่เป็นปัญหา ตามปกติต้องให้คดีถึงที่สุดถึงจะมีข้อยุติในเรื่องคุณสมบัติการเป็นส.ส. แต่คดีของผมถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด แต่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นปัญหา จึงนำมาซึ่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัย และเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีจุดอ่อนอีกหลายจุดที่เป็นประเด็นต้องถกเถียงกัน เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ที่จะมีขึ้นในอนาคต”

Advertisement

นายเทพไท กล่าวอีกว่า สำหรับการส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ลงแทนนั้น เป็นหน้าที่ของกรรมการสรรหาและคณะกรรมการบริหารพรรคปชป.ที่จะสรรหาตัวผู้สมัครส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องไปคุยกัน ทำไพรมารีโหวตว่าจะสนับสนุนใครเป็นตัวแทน คิดว่าในพื้นที่ภาคใต้ไม่น่ากังวลสำหรับพรรคปชป. เชื่อว่าหลายคนในพรรคจะเสนอชื่อผู้สมัคร และตนก็มีสิทธิเสนอชื่อเช่นกันเพราะเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม

นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับงานที่จะให้ส.ส.คนใหม่ของพรรคเข้ามาสานต่อ มีจำนวน 6 เรื่อง อาทิ การแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ที่เคยเสนอให้ขุดคลองและสร้างถนนรอบพื้นที่ป่าเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โครงการท่อส่งน้ำของอำเภอจุฬาภรณ์ ซึ่งได้ประสานเรื่องนี้ไปแล้ว เนื่องจากพื้นที่นี้ไม่มีน้ำประปา โครงการสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่ ที่วังบัว อำเภอพระพรหม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผลักดันมาตลอด เป็นต้น ทั้งนี้ ขอขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสเป็นส.ส. มา 20 ปี ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ และหลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไปตนจะมีบทบาทเป็นนักการเมืองนอกสภาคนหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image