หน้า3 : ตรวจสอบ เนื้อหา ‘ญัตติ’ ของ ฝ่ายค้านร่วม รอบคอบ เพียงใด

ข้อกล่าวหาที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเขียนในกรณีแสดงความไม่ไว้วางใจต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินไปอย่างยาวเหยียด

เมื่อเขียนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพียง 7 บรรทัด

เมื่อเขียนถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพียง 16 บรรทัด เมื่อเขียนถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เพียง 26 บรรทัด เมื่อเขียนถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพียง 8 บรรทัด

หรือเมื่อเขียนถึง นายนิพนธ์ บุญญามณี เพียง 4 บรรทัด

Advertisement

กระนั้น ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านบรรจงพรรณนาถึงคุณงามความดีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยาวเหยียดแต่ต้นจนจบ

สิริรวมแล้วเท่ากับ 38 บรรทัด

ภายใน 38 บรรทัดนั้น ส่วนแรกประกอบด้วย ข้อกล่าวหาในลักษณะรวบรัดในเชิง “สรุป” จากนั้น จึงค่อยร่ายเรียงออกมาเพื่อเป็น “ตัวอย่าง”

Advertisement

ทั้งหมดคือ ปลายหอกที่พุ่งสู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขอให้อ่านในพารากราฟแรก “บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้ภาวะผู้นำ ไร้จิตสำนึก และความรับผิดชอบ”

ประโยคที่เริ่มต้นด้วยคำว่า “ไร้” นี้ลองสมมุติว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา

ไปยืนประสานเสียงกัน “เปล่ง” ผลจะเป็นอย่างไร

เพราะที่ว่า “ไร้” นั่นแหละ ตามมาด้วย “มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต เพื่อสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง

ท่ามกลางภาวะที่ประชาชนดำรงชีวิตอย่างยากลำบาก และมีการระบาดของโรคโควิด

ทั้งหมดเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดของตนเอง มีการใช้อำนาจแลกผลประโยชน์ทำให้การทุจริตแพร่กระจายไม่ต่างจากโรคระบาด

จนได้ชื่อว่าเป็นยุคที่การทุจริตเฟื่องฟู เบ่งบานมากที่สุด”

กระนั้น ในส่วนที่ 2 อันถือว่าหนักหนาย่อมเริ่มจาก “กระทำการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ สร้างความแตกแยกในสังคม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ

ในการแสวงหาผลประโยชน์ และทำลายผู้เห็นต่าง

ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน และสื่อมวลชน ปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันกระจายไปทั่ว

ไม่ยึดมั่นและศรัทธาในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ทำลายและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน

แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเกราะกำบัง

ความผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของตนเอง ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม และสิทธิมนุษยชน

ทำลายระบบคุณธรรมในระบบราชการ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”

ส่วนแรกของข้อกล่าวหาถือว่าสำคัญอยู่แล้ว ส่วนที่ 2 ยิ่งมีความหมายเป็นอย่างสูงในทางการเมือง เพราะจะทำให้ข้อกล่าวหานี้มีความแจ่มชัด

จำเป็นต้องยก “ตัวอย่าง” อย่างเป็น “รูปธรรม”

รูปธรรมนี่แหละ จะสะท้อนให้เห็นว่า ฝ่ายค้านตระเตรียมมาดีมากน้อยเพียงใด ฝ่ายค้านจัดระบบของข้อมูลได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร

การอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image