สรุปเหตุม็อบสถานทูตเมียนมา จับ 3 ผู้ชุมนุม ตร.เจ็บ 14 นาย พร้อมยึดรถเครื่องเสียง

สรุปเหตุม็อบสถานทูตเมียนมา จับ 3 ผู้ชุมนุม ตร.เจ็บ 14 นาย พร้อมยึดรถเครื่องเสียง

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีรายงานข่าวแจ้งกรณีการจับกุมผู้ชุมนุมทำกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหารของประเทศเมียนมา ที่หน้าสถานทูตเมียนมา ถนนสาทรเหนือ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า ตำรวจสามารถจับกุมนายวิชพรรษ ศรีกสิพันธุ์ อายุ 21 ปี นายปัณณพัทธ์ จันทนางกูล อายุ 20 ปี และนายเกียรติศักดิ์ พันธุ์เรณู อายุ 20 ปี พร้อมของกลางรถกระบะ ยี่โตโยต้า สีแดง ดัดแปลงติดเครื่องขยายเสียง 1 คัน

โดยผู้ต้องหาทั้งสามราย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา เพื่อทำบันทึกการจับกุมและสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย , ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ข้อ 3 ประกอบ ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19) ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ข้อ 1 ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาส ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใด ๆ ทั่วราชอาณาจักร ,

ข้อ 2 ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะ ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ในพื้นที่ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศหรือมี คำสั่งให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่ควบคุม เว้นแต่การทำกิจกรรมของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่ปลอดภัย หรือการทำกิจกรรมภายในครอบครัว ที่อยู่ในเคหสถาน” และ”กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6)”

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ 14 ราย นำไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ 2 ราย รายแรกมีอาการเยื้อแก้วหูฉีกขาด และ แผลฉีกขาดที่บริเวณเข่าขวา แพทย์ได้เย็บแผล ส่วนอีก 12 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย ส่งทำแผลที่ รพ.ตำรวจ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image