‘เพื่อไทย’ จี้ นายกฯจริงจังแก้คอร์รัปชั่นวงการสีกากี​ แนะตั้ง กก.สอบตัวเอง ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง

‘เพื่อไทย’ จี้ นายกฯจริงจังแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นวงการสีกากี​

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกรณีบ่อนที่มีอยู่อย่างแพร่หลายทุกพื้นทั่วไทย ว่า ปัญหาบ่อนไม่ใช่เรื่องใหม่​ แต่คำถามคือบ่อนมีเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศตลอด 7 ปี และที่สำคัญบ่อนยังเป็นสาเหตุหลักของการระบาดโควิดในระลอกที่ 2 แม้นายกฯจะมีคำสั่งให้ปราบปรามจริงจังท้ังเรื่องบ่อน ส่วย และยาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐยังคงทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งและเป็นขบวนการ

น.ส.อรุณี​กล่าวว่า กรณีล่าสุดขนตู้ม้าหนี (หลงจู้อาเจ) จากภาคตะวันออกไปภาคอีสาน เรื่องนี้จเรตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าตำรวจ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ไปที่เกิดเหตุที่ พบรถขนตู้มาหนีจริง แต่ไม่จับกุม หรืออีกกรณีตำรวจชั้นผู้น้อยทำหนังสือร้องเรียนระดับ ผบ.ร้อย.บก.ภ.4 เรียกรับผลประโยชน์ โดยให้​ลูกน้องเป็นคนส่งส่วย

น.ส.อรุณี​กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ถนัดตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ในทางกลับกันนายกฯควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนตัวเองว่าทำประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง ต้องตรวจสอบว่าในระดับตำรวจที่โดนตั้งคณะกรรมการเป็นระดับชั้นไหน เพราะที่ผ่านมีแต่นายตำรวจชั้นผู้น้อยที่ถูกลงโทษ ทั้งที่วัฒนธรรมขององค์กรตำรวจและโครงสร้างที่สะท้อนให้เห็นถึงลูกน้องเลี้ยงนาย จึงเป็นที่มาของการส่งส่วยในวงการตำรวจหรือไม่ ทั้งที่ตำรวจมีหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย

Advertisement

“แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่ารายได้ตำรวจที่ได้มาจากการทำถูกกฎหมายนั้นมีน้อย แต่เป็นรายได้ที่เกิดจากธุรกิจผิดกฎหมายและธุกิจมืด ได้แก่ ธุรกิจพนัน ธุรกิจด้านการขนส่ง ธุรกิจสถานบันเทิง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนลักลอบเข้าเมือง พล.อ.ประยุทธ์ เคยสัญญาจะปฏิรูปองค์กรตำรวจ และจะเข้ามาปราบโกง แต่ที่ผ่านมาสังคมเกิดคำถามว่ากลไกตรวจสอบและรักษาความยุติธรรมของรัฐร่วมฉ้อฉลเสียเอง ทั้งที่มีกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เคยใช้จริงจังหรือไม่ หรือตัวนายกฯประยุทธ์เองที่ละเลยการปฎิบัติหน้าที่เสียเอง” น.ส.อรุณีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image