‘ก้าวไกล’ แจงกลับ ‘ณฐพร’ หลังถูกยื่นยุบพรรค จ่อฟ้องแจ้งความเท็จ ชี้ ส.ส.ไม่ลงชื่อแก้ 112 เป็นเอกสิทธิ์

‘ก้าวไกล’ แจงกลับ ‘ณฐพร’ หลังถูกยื่นยุบพรรค จ่อฟ้องกลับฐานแจ้งความเท็จ ชี้ ส.ส.ไม่ลงชื่อแก้ 112 เป็นเอกสิทธิ์

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมส.ส. พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวกรณี นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณายื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบ พรรคก้าวไกล โดยกล่าวหาว่าพรรคกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ม.45 และ ม.92 (2) (3) คือกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น

อ่านข่าว : ‘ณฐพร โตประยูร’ ยื่น กกต.ส่งศาล รธน.ยุบก้าวไกล ปมประกันตัวม็อบ-แก้ ม.112 เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง

นายชัยธวัชกล่าวว่า 1.พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของระบอบรัฐประหาร

Advertisement

นายชัยธวัชกล่าวว่า พรรคก้าวไกลมิได้กระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แต่เราต้องการปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน และคัดค้านนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่ลุกขึ้นมาทวงคืนอนาคตของพวกเขา

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า 2.การใส่ร้ายพรรคก้าวไกลว่ามีแนวคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งนายณฐพร รู้ดีอยู่แก่ใจ เนื่องจากเขาเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาแล้วว่าพรรคอนาคตใหม่ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือคดีอิลลูมินาติ แล้วศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ว่าพรรคอนาคตใหม่มิได้มีการกระทำตามที่กล่าวหา ถือเป็นพฤติกรรมกล่าวหาเท็จซ้ำซากของนายณฐพร เป็นพฤติการณ์ของโมฆะบุรุษ

Advertisement

นายชัยธวัชกล่าวว่า ปัจจุบันนายณฐพร ตกเป็นจำเลยในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจากคดีฟอกเงินการขายที่ดินของอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น น่าสงสัยว่า การไล่ร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ต่อเนื่องมาถึงพรรคก้าวไกลนี้ เป็นการแสดงผลงานของนายณฐพรให้เข้าตาผู้มีอำนาจ เพื่อหวังจะพ้นผิดจากคดีฟอกเงินที่เป็นชะงักปักหลังอยู่หรือไม่ 3.พรรคก้าวไกลยืนยันอีกครั้งว่า พฤติการณ์ที่นายณฐพรนำมากล่าวหาว่าเป็นความผิดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการกล่าวหาเท็จทั้งสิ้น

อ่านข่าว : ‘ณฐพร โตประยูร’ ไม่จบ เดินหน้าชงยุบอนาคตใหม่ต่อ อ้างอีก เป็นปฏิปักษ์การปกครองฯ

“นอกจากกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับประชาชน ซึ่งเปิดให้มี ส.ส.ร. แก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 ได้ รวมทั้งการเสนอแก้มาตรา 112 ถือเป็นกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งๆ ที่การลงมติเห็นชอบให้มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ และการเสนอร่างกฎหมายเป็นอำนาจของ ส.ส.

“หรือกล่าวหาว่าการที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลไปสังเกตการณ์การชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และใช้ตำแหน่งประกันตัวนักเรียนนักศึกษาประชาชนที่ถูกดำเนินคดีนั้น ถือเป็นกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งๆ ที่การไปสังเกตการณ์การชุมนุมของ ส.ส.นั้น เป็นการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรที่ดีในการรับฟังความคิดเห็นและช่วยระงับความรุนแรงหากเกิดการปะทะกัน

พิธา ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัว “ส.ส.พรรคก้าวไกลกระจายตัวอยู่ในแต่ละจุดรอบอาคารรัฐสภา เพื่อหาทางบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ให้เจ้าหน้าที่ยุติการใช้ความรุนแรงและการใช้อุปกรณ์สลายการชุมนุมทันที” เมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 วันเดียวกับที่ราษฎรนัดชุมนุมใหญ่หน้ารัฐสภา

“ส่วนการประกันตัวก็เป็นการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และตามกระบวนการยุติธรรมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับนายณฐพรที่มีสิทธิได้รับการประกันตัวในคดีฟอกเงิน ส่วนกรณี  หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ที่ออกมาแสดงความเห็นกรณีที่ศาลปล่อยให้มีการประกันตัวผู้ต้องหาในมาตรา 112ถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ เรื่องนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะนอกจากจะกล่าวหา ส.ส.แล้ว ตอนนี้ยังขู่ผู้พิพากษาและตุลาการที่มีส่วนในการปกครองหรือไม่ ถือเป็นการแทรกแซงที่ไม่น่าเกิดขึ้น

“หาก ส.ส.จะผิดก็คงเป็นความผิดที่ไม่สยบยอมให้รัฐบาลในระบอบประยุทธ์ ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปราบปรามทางการเมืองตามอำเภอใจ โดยทำลายหลักนิติรัฐและละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน” นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัชกล่าวว่า ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลได้เตือนรัฐบาลไว้ในหลายครั้งแล้วว่า การรับมือกับความเรียกร้องต้องการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจสำหรับคนรุ่นเก่า โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์นั้น ต้องมีกุศโลบายที่ละเอียดอ่อน แทนที่จะเน้นมาตรการกดบังคับปราบปราม ควรเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้แต่ละฝ่ายได้พูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ แต่แนวทางที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำมา รวมทั้งการบังคับใช้มาตรา 112 ยิ่งทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองตึงเครียดมากขึ้น และจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนเสื่อมทรามลง

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า 4.ในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะครบรอบ 1 ปีการยุบพรรคอนาคตใหม่ในโอกาสนี้พรรคก้าวไกลเห็นว่า คำร้องยุบพรรคของนายณฐพรดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการที่ต้องการบดขยี้พรรคอนาคตใหม่สืบเนื่องมาถึงพรรคก้าวไกล โดยใช้สถาบันและกลไกองค์กรอิสระในระบอบประยุทธ์เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง ทั้งนี้ ก็เพราะอนาคตใหม่และก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่เป็นอุปสรรคต่อการสถาปนาระบอบอำนาจนิยมสมบูรณาญาสิทธิ์ในปัจจุบัน

อ่านข่าว : ศาลรธน.มติ 7 ต่อ 2 ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิ์ทางการเมือง กก.บห.พรรค 10 ปี
‘พิธา’บอกเลอะเทอะไร้สาระ ข่าว ‘ณัฐพร โตประยูร’ไปร้องยุบพรรค แค่เบี่ยงเบนก่อนซักฟอก

เมื่อถามว่า จะมีการฟ้องร้องกลับนายณฐพรหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า จะดำเนินการฟ้องฟ้องกลับในเร็วๆ นี้ มาตรา 101 ว่าด้วยการกล่าวหาเท็จ ต่อพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ. พรรคการเมือง

นอกจากนี้ นายชัยธวัชยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ขณะนี้ได้พิจารณาแก้ไขในร่างสุขท้ายแล้ว คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะพร้อมยื่นร่างแก้ไข ส่วนการลงชื่อของ ส.ส.ที่จะสนับสนุนหรือไม่นั้น ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image