“นิพนธ์” ห่วงปชช. ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี แก้ไขน้ำเค็ม กปน. เผยเร่งใช้ปฎิบัติกระแทกน้ำไล่ความเค็ม
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ประธานกรรมการการประปานครหลวง (กปน.) ได้เดินทางมายังที่สถานีสูบน้ำดิบสำแล อำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำดิบ และหามาตรการในการแก้ไขปัญหาน้ำดิบของ กปน. โดยมี นายกวี อารีกุล ผู้ว่าการ กปน. และคณะผู้บริหาร กปน.ให้การต้อนรับ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ ที่ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนน้อยลง อีกทั้งสถานการณ์น้ำทะเลที่หนุนสูงขึ้น จึงส่งผลให้น้ำประปาในบางช่วงเวลาในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีรสชาติเปลี่ยนแปลงไป จึงฝากให้ กปน. เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งดำเนินการแจ้งข้อมูลที่จำเป็นให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที พร้อมทั้งได้สั่งการให้มีการเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งในช่วง 2-3 เดือนก่อนเข้าฤดูฝนนี้ด้วย โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ในการใช้น้ำอย่างประหยัดระมัดระวัง
“ในช่วงนี้ฝากถึงประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มของผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับการใช้น้ำประปาที่มีรสชาติเปลี่ยนแปลงอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่เป็นเกี่ยวกับโรคไต โรคความดัน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ อีกด้วย”นายนิพนธ์ กล่าว
นานิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวันนี้ ได้กำชับให้ กปน. บริหารจัดการการสูบน้ำดิบ ด้วยความรัดกุม และบริหารจัดการให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอในหน้าแล้งนี้ และสำหรับแผนระยะยาวในอนาคต ขอให้ กปน. เร่งรัดดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ำประปาที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูงอย่างยั่งยืน
ด้าน นายนิสิต ประธานกรรมการ กปน. กล่าวว่า กปน. มีการบริหารจัดการการสูบน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยาโดยสูบน้ำที่มีลิ่มความเค็มสูงเข้ามาในคลองประปาให้น้อยที่สุด ซึ่งความสามารถในการหลบเลี่ยงทำได้สูงสุดเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อผลิตน้ำประปาให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยที่ผ่านมา กปน. ได้ร่วมมือกับ กรมชลประทาน และสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ในการร่วมปฏิบัติการกระแทกน้ำ (Water Hammer of Chao Phraya River Flow Operation : กระแทกลิ่มความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา) เพื่อผลักดันน้ำเค็มให้ไกลจากบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล ช่วยบรรเทาสถานการณ์น้ำทะเลหนุน และช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับพี่น้องประชาชน
ขณะที่ นายกวี ผู้ว่าการ กปน. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กปน. มีการแจ้งข้อมูลคาดการณ์คุณภาพน้ำประจำวันให้ประชาชน ผ่านทุกช่องทางจาก กปน. คือ http://twqonline.mwa.co.th / แอปพลิเคชั่น MWA onMobile / Facebook / Line / Twitter / Instagram @MWAthaiand เพื่อให้ประชาชนสามารถสำรองน้ำในช่วงปกติ (ค่าคลอไรด์ไม่เกิน 250 มก./ล.) และมีมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยเปิดจุดบริการน้ำประปาดื่มได้ ให้ประชานสามารถนำภาชนะมารับน้ำประปาได้ฟรี ที่สำนักงานประปาสาขา และหากวันใดที่ไม่มีน้ำทะเลหนุนสูง ก็สามารถอุปโภค-บริโภคน้ำประปาและสำรองน้ำประปาไว้ใช้ได้ ตามช่วงเวลาที่แนะนำ
“นอกจากนี้ กปน. ขอความร่วมมือประชาชนในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ใช้น้ำอย่างประหยัด โดยใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ปล่อยให้น้ำไหลทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ หันมาใช้อุปกรณ์ประปาที่ได้รับรองฉลากประหยัดน้ำ และตรวจสอบอุปกรณ์ประปาภายในบ้านให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ หากประชาชนพบท่อประปาในพื้นที่สาธารณะแตกรั่ว โปรดแจ้ง กปน. ผ่านช่องทางต่างๆ และขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้ทุกภาคส่วนผ่านพ้นวิกฤติภัยแล้ง ด้วยการมีน้ำใช้อย่างไม่ขาดแคลน” นายกวี กล่าวทิ้งท้าย