“ยุทธพงศ์” แถลงซัด “ณัฏฐพล” ใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการประจำ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ชี้มีอำนาจใหญ่กว่าผู้ว่าฯ ลั่นชวน “ครู-นักเรียนเลว” จับตาดูศึกซักฟอก มันแน่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วย น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี ร่วมแถลงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวถึงในส่วนของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการประจำ ออกคำสั่งเพื่อให้พวกพ้องเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ว่า กระทรวงศึกษาธิการแบ่งการบริหารงานเป็นสี่แท่ง แต่ละหน่วยงานห้ามก้าวก่ายกัน แต่ในวันที่ 7 มกราคม 2564 นายณัฏฐพลออกคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ.11/2564 เพื่อทำแผนบูรณาการด้านการศึกษา เพิ่มศักยภาพการศึกษาของโรงเรียน จึงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและข้าราการในกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการของแต่ละจังหวัด มีผู้กำกับนโยบาย คือปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แค่ออกหนังสือฉบับนี้ก็ถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากหัวหนังสือเป็นคำสั่ง สพฐ.แต่ไปสั่งแท่งอื่นในกระทรวงได้อย่างไร
“เมื่อไปดูผู้รับผิดชอบการดำเนินการในแต่ละจังหวัด ที่จะล้อกับประเด็นในญัตติใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง จะเห็นว่า นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีพื้นฐาน จ.ปราจีนบุรี แต่ไปดูแล จ.บุรีรัมย์ จะเข้าใจพื้นที่ได้อย่างไร ส่วนนายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อไปตรวจสอบประวัติแล้ว ท่านเป็นเพียงไฮโซ เคยมีแฟนเป็นดารา และเป็นเจ้าของธุรกิจอาหาร ได้ไปกำกับการศึกษาใน จ.ภูเก็ตทั้งหมด แล้วจะมีความรู้ด้านการศึกษาได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีอำนาจใหญ่กว่าผู้ว่าราชการจังหวัดในด้านการศึกษา จึงขอเชิญชวนนักเรียนเลวและบรรดาครูอาจารย์ร่วมฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้” นายยุทธพงศ์
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า การอภิปรายในครั้งนี้ทุกอย่างเป็นความลับ มีเพียง ส.ส.ในตำแหน่งเท่านั้นที่ดำเนินการ เพราะเกรงว่า จะถูกครหาว่าข้อสอบรั่วเหมือนครั้งที่ผ่านมา และขอชี้แจงว่า การอภิปรายครั้งที่แล้วรัฐบาลเพิ่งข้ามาบริหารประเทศ เพียงไม่นานก็มีการอภิปราย งบประมาณก็ยังไม่ได้ใช้ จึงอภิปรายได้จำกัด แต่ครั้งนี้ประเทศมีวิกฤต รัฐบาลบริหารมาได้ครึ่งเทอม มีทั้งวิกฤตโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจและสังคม ถ้าพรรคฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลคงไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ถึง 10 คน และทุกวันนี้ก็ยังตกลงเรื่องของเวลาอภิปรายไม่ได้ เพราะข้อมูลแน่น จึงขอให้มั่นใจ ส่วนที่บางฝ่ายกังวลว่า การแถลงข่าวของตนเป็นการเฉลยการบ้านนั้น งานนี้เป็นเพียงแอพพิไทเซอร์ ขอให้รอดูเมนคอร์ส มันแน่ๆ
