เตือน สนช.อย่าข้ามหลักการ! วิรัตน์ ยันส.ส.เป็นผู้เสนอชื่อนายกฯ ส.ว.แค่คนร่วมโหวต

วิรัตน์ กัลยาศิริ

“วิรัตน์” เตือน สนช. อย่าเพิ่มงานให้ ศาลรธน. – ตีความกว้าง”

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปกติสภาที่มีอำนาจเลือกนายกฯคือ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นที่ยอมรับในรัฐธรรมนูญไทยมาเกือบทุกฉบับ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญปี 2540 2550 และ 2559 ก็ยอมรับอำนาจของสภาผู้แทนฯ ให้เป็นผู้เลือกนายกฯ แต่กรณีคำถามพ่วงเป็นเรื่องบทเฉพาะกาล 5 ปี ซึ่งหลักก็ให้สภาผู้แทนฯเป็นผู้เลือกนายกฯอยู่แล้ว แต่ยกเว้นให้ส.ว.มีสิทธิเลือกด้วย ดังนั้นการตีความต้องไม่เกินไปจากสาระในคำถามพ่วง คือระยะ 5 ปีที่ให้ส.ว.มีสิทธิโหวตได้ แต่ต้องไม่ลบล้างหลักที่ให้ส.ส.เลือกนายกฯ ตามรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอ 3 ชื่อ เพราฉะนั้นถ้าตามเจตจำนงค์ของคำถามพ่วง ส.ว.แค่มีสิทธิร่วมโหวต กับส.ว.ในระยะ 5 ปีเท่านั้น คงไม่เลยไปถึงเสนอชื่อนายกฯ

นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า ถ้าเกินจากเจตจำนงของคำถามพ่วงคงต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ชี้ขาดว่าควรยึดตามเจตจำนงของประชาชนที่ลงมติในคำถามพ่วงหรือเอาที่สนช.เสนอ ทั้งนี้ไม่ทราบว่าสนช.ต้องการอะไรถึงอยากให้ส.ว.เสนอชื่อนายกฯได้ แต่เห็นว่าหากเกินกรอบไป ก็ทำให้ของดีๆ เสียหายได้ ดังนั้นสุดท้ายก็จบที่ศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นเรื่องยากที่จะผ่านไปได้ เพราะแค่คำถามพ่วงก็ยากอยู่แล้ว เป็นการไปเพิ่มงานให้ศาลรัฐธรรมนูญเสียมากกว่า

เมื่อถามว่า สนช.อ้างว่ามีการไปชี้แจงกับประชาชนในช่วงรณรงค์คำถามพ่วง นายวิรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของคำพูด จะพูดอะไรก็ได้ ดังนั้นต้องดูถ้อยคำที่อยู่ในคำถามพ่วงถึงจะถูกต้อง และตีความกว้างไปไม่ได้ เพราะอาจทำให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.เสีย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯ ก็เสียไปด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image