“คิดเพื่อไทย” เผย “เชนจ์เมกเกอร์” ดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาทำนโยบาย ก่อนส่งให้พรรคนำไปต่อยอด เชื่อ ประเทศจะดิสรัปต์ได้ถ้ามีนโยบายดี
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการคิด พท. ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการโครงการเชนจ์เมกเกอร์ ว่า โครงการเชนจ์เมกเกอร์นี้เราแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน คือ ช่วงแรก คือการคัดสรรค์บุคคล ช่วงที่ 2 คือการพัฒนาคนในพรรค และคนนอกพรรคที่เข้ามามีส่วนร่วม และช่วงที่ 3 คือการเอานโยบาย หรือความรู้ต่างๆ ที่ได้จากการพัฒนาในช่วงที่ 1 และ 2 มารวมกัน จากนั้นเราจะตั้งโพลิซีแล็ป หรือสถาบันนโยบายที่เป็นทางการโดยเฉพาะเจาะจง เพราะที่ผ่านมาแต่ละพรรคการเมืองไม่เคยมีสถาบันแบบนี้อยู่ในพรรค เราจึงอยากมีสถาบันที่มีทั้งนักวิจัย และคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามานั่งประจำ เพื่อวิเคราะห์นโยบายเพื่อนำเสนอให้กับพรรคให้ตรงกับความต้องการของประชาชนแต่ละยุค แต่ละสมัย
เมื่อถามว่า นโยบายที่ได้จากสถาบันจะนำไปต่อยอดอย่างไร จะเอาไปนำเสนอให้พรรค พท.ไปทำเป็นนโยบาย เอาไปผลักดัน หรือนำเสนอให้ทางรัฐบาลเอาไปทำ นายคณาพจน์กล่าวว่า ก็อยู่ที่ว่านโยบายนั้นเสร็จช่วงไหน และอยู่ในรูปแบบไหน แต่สุดท้ายแล้วเราจะได้นโยบายที่ตรงกับความต้องการของประชาชน และนโยบายนั้นสามารถเสนอให้กับทุกคนเอาไปทดลองทำในแต่ละส่วนได้ เนื่องจากนโยบายที่สถาบันทำนั้น เป็นนโยบายที่หลากหลายด้านมาก และเจาะจงในพื้นที่ต่างๆ ลงไปเลย ดังนั้น ที่เราอยากทำ คือเราอยากทำในรูปแบบ โพลิซีฮับ เพราะเราอยากได้นโยบายเชิงโครงสร้างที่มีรูปแบบอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมามีเพียงการออกมาพูด แต่ไม่มีคำตอบให้ประชาชนเลย ตนเชื่อว่า นโยบายเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างมีคำตอบได้ในกลไกลของประเทศ และสังคม
เมื่อถามย้ำว่า นโยบายที่ได้มาใครจะเป็นผู้นำไปปฏิบัติ นายคณาพจน์กล่าวว่า พรรค พท.ต้องเป็นพรรคที่เปิดกว้างสำหรับคนหลายๆแบบ นโยบายที่เราจะได้จะเป็นนโยบายที่คิดจากภายนอกเข้ามาว่าเขาต้องการอะไร วันนี้ที่เราทำได้คือเมื่อเรามีฝ่ายการเมืองแล้ว เราต้องส่งต่อการบ้านนี้ให้ฝ่ายการเมืองคือ พรรค พท. ซึ่งเป็นพรรคที่มีฐานเสียงมากที่สุดในประเทศไทยเอาไปดำเนินการต่อว่าจะทำตรงนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ เราต้องได้รับคามร่วมมือจาก ส.ส.ในพรรค ตนเชื่อว่าพรรค พท.เป็นพรรคที่มีความสำเร็จทางนโยบายในอดีตที่เป็นที่ประจักษ์ และเป็นพรรคที่มีความเชี่ยวชาญในทางนโยบาย ตนเชื่อว่า พรรค พท.จะสามารถนำนโยบายที่ได้จากโครงการนี้ไปต่อยอด และทำให้เกิดขึ้นจริงได้ ขนาดที่เลขาธิการพรรค พท.พูดว่า พรรค พท.ดิสรัปต์พรรค ตนก็เชื่อว่าการเมืองไทยต้องดิสรัปต์ด้วยหากเรามีนโยบายที่ดี และมีอิมแพ็คกับคนหมู่มากได้
เมื่อถามว่า มีคนมองว่าสิ่งที่กลุ่มคิด พท.กำลังดำเนินการอยู่นี้เป็นการเตรียมการเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้น นายคณาพจน์กล่าวว่า จริงๆเรามองในภาพรวมมากกว่า เรายืนในหลักการว่าเราทำอะไรให้กับสังคมได้ สิ่งที่เราจะได้จากโครงการนี้มี 2 ส่วน คือ 1.เราจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพ ได้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามา ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามา เพราะเมื่อก่อนมีคนอยากทำงานการเมืองแต่ไม่รู้จะไปทางไหนดี และ 2.จะได้นโยบาย และไอเดียดีๆ ใหม่ๆ ที่สามารถทำได้จริง และผ่านกระบวนการทดลองว่าทำได้หรือไม่
