‘กลุ่มสร้างไทย’ ประณามสมาชิกรัฐสภา เตะถ่วงการมี รธน. เหตุ พปชร.-ส.ว.ยื่นศาลตีความแก้รัฐธรรมนูญ

‘กลุ่มสร้างไทย’ ประณามสมาชิกรัฐสภา เตะถ่วงการมี รธน. เหตุ ‘พลังประชารัฐ-ส.ว.’ ยื่นศาลตีความแก้รัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มสร้างไทย ออกแถลงการณ์กลุ่มสร้างไทย กรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว. เข้าชื่อเสนอญัตติต่อประธานรัฐสภาขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา กรณีเห็นว่าสมาชิกรัฐสภาไม่มีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยระบุว่า “กลุ่มสร้างไทย” ขอเรียนว่า การขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560 โดยมี ส.ส.ร. เป็นองค์กรในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ (ยกเว้นการแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2) ได้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2534 ทุกประการ และตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2534 มาตรา 211 (1) ก็มิได้มีบทบัญญัติว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเช่นกัน แต่สมาชิกรัฐสภาก็ได้ให้ความเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2539 อันเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ดังนั้น การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่โดย ส.ส.ร. จึงกระทำได้และเป็นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทุกประการ

“กลุ่มสร้างไทย” เห็นว่า การใช้สิทธิของบุคคลจะต้องเป็นไปโดยสุจริต แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาของสมาชิกรัฐสภากลุ่มนี้ส่อให้เห็นถึงความไม่สุจริตมาแต่แรก เริ่มจากการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นถ่วงเวลาด้วยการขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญของรัฐสภาเพื่อพิจารณาศึกษาญัตติการขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และล่าสุดคือการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของตน

“กลุ่มสร้างไทย” เห็นว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง ส.ส.ร. ฉบับที่ถูกใช้เป็นร่างในการพิจารณาในรัฐสภาขณะนี้ ได้ถูกเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำและผู้ที่จะเสนอญัตติให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็เป็นผู้ร่วมลงชื่อในร่างแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวด้วย อีกทั้งร่างดังกล่าวยังได้รับการลงมติเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกรัฐสภาในวาระแรกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 124 ยังบัญญัติให้การออกเสียงลงคะแนนของสมาชิกรัฐสภาเป็นเอกสิทธิ์เด็ดขาดที่ผู้ใดจะนำไปเป็นเหตุฟ้องร้องว่ากล่าวสมาชิกผู้นั้นในทางใดๆ มิได้ กรณีจึงไม่มีเหตุอันควรและล่วงเลยเวลาที่จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงอำนาจหน้าที่ในการลงมติแล้ว นอกจากจะเป็นไปเพื่อถ่วงขั้นตอนและเวลาการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน

Advertisement

นอกจากนี้ “กลุ่มสร้างไทย” ยังเห็นว่า รัฐธรรมนูญได้กำหนดขั้นตอนการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญไว้แล้วตามมาตรา 256 (9) ที่ให้อำนาจสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบ มีสิทธิเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกเพื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ดังนั้น การเพิ่มขั้นตอนจากที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้จึงเป็นการถ่วงเวลาการมีรัฐธรรมนูญของประชาชน

“กลุ่มสร้างไทย” เห็นว่าเมื่ออำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ประชาชนจึงย่อมมีอำนาจที่จะแต่งตั้งตัวแทนเพื่อร่างรัฐธรรมนูญอันเป็นหลักประกันการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของตนได้โดยชอบ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งถูกร่างขึ้นโดยคณะบุคคลที่ถูกแต่งตั้งโดยเผด็จการที่นอกจากจะไม่มีความชอบธรรมแล้ว เนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญยังขัดต่อหลักนิติธรรมและเป็นไปเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการอันนำมาซึ่งความขัดแย้งและความล้มเหลวในการบริหารประเทศสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่าดังที่เกิดขึ้นแล้วจนถึงปัจจุบัน ยกเว้นเพียงกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากการเกื้อหนุนของเผด็จการที่อยู่บนต้นทุนของประเทศและความเดือดร้อนของประชาชน

“กลุ่มสร้างไทย” จึงขอประณามสมาชิกรัฐสภาทุกคนที่ถ่วงเวลาการมีรัฐธรรมนูญของประชาชน พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาท่านอื่นๆ ได้ตระหนักว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย จึงควรรีบคืนอำนาจให้กับประชาชนเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ที่เป็นของประชาชนโดยเร็ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image