รัฐสภา-ประชุมป่วนก่อนลงมติวาระ 3 ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง “จุลพันธ์” ขอนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ แม้มี ส.ส.แสดงตน 246 เสียง ถือว่าเกินครึ่งก็ตาม “ศุภชัย” พยายามกล่อมแต่ไม่เป็นผล ด้าน “จอมขวัญ ส.ส.พปชร.”ห่วงซื้อของไหว้เจ้าไม่ทัน สุดท้ายองค์ประชุมครบ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนครบทั้ง 40 คนแล้ว เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ฉบับที่ พ.ศ….ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ทั้งนี้ ภายหลังสมาชิกอภิปรายเรียงตามลำดับมาตราเสร็จสิ้น และพิจารณาทั้งร่างแล้ว จนถึงขั้นตอนการลงมติวาระ 3 ในเวลา 12.00 น. มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมจำนวน 246 คน ถือว่าครบองค์ประชุม
จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรววัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลข ส.ส.ในที่ประชุมน่าเป็นห่วงเพียง 246 ท่าน จึงขอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ แต่นายศุภชัยพยามยามไกล่เกลี่ยว่าการพิจารณาใกล้จะจบแล้ว และตนมองดูด้วยสายตาแล้วสมาชิกก็แน่นห้องประชุม เพียงแต่สมาชิกบางส่วนอาจจะไม่กดเสียบบัตรแสดงตนเท่านั้นเอง ขอร้องท่านจุลพันธ์ ร่วมไม้ร่วมมือกันเพื่อความสำเร็จของการพิจารณากฎหมาย
ทำให้ นายจุลพันธ์ลุกขึ้นสวนทันทีว่า ข้างหลังฝากมาบอกท่านประธานว่า ทำเป็นไม่เคย เพราะตนก็เห็นว่า เราพยายามให้ความร่วมมือมาตลอด การอภิปราย และการลงมติทุกครั้ง พวกตนพรรคฝ่ายค้านถึงแม้จะเป็นเสียงข้างน้อยก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่วันนี้แม้แต่กระบวนการที่จะยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยังมีกระบวนการที่จะขัดขวาง พวกตนมีความจำเป็นจริงๆ ที่เสนอให้มีการเช็กองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ
นายศุภชัยยังคงพยายามที่จะไม่ให้มีการนับองค์ประชุม โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนให้ความเคารพ ไม่ได้ตำหนิสมาชิกที่นั่งในห้องประชุมแล้วไม่ได้เสียบบัตรแสงตน เพราะเป็นสิทธิของท่าน เพียงแต่ว่า เราอยากจะร่วมกันผลักดันให้กฎหมายผ่านไปได้ด้วยดี ความจริงองค์ประชุม 246 เสียง ถึงแม้จะเกินครึ่งไปไม่มาก แต่ก็ถือว่าครบองค์ประชุม อยากจะขอร้องนายจุลพันธ์อีกสักครั้ง
ด้าน นายจุลพันธ์ยืนยันให้มีการนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อตามที่ได้เสนอ โดยกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาขอกัน การทำงานในสภาเราให้ความร่วมมือมาตลอดกลับถูกขัดขวาง พวกตนเดินต่อไม่ไหว ขอยืนยันให้นับองค์ประชุม
ทั้งนี้ น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นหารือสอบถามว่า หากนับองค์ประชุมแล้วไม่ครบ ต้องปิดประชุมใช่หรือไม่ วันนี้เป็นวันจ่าย สมาชิกกลับไปซื้อของไหว้เจ้าได้ใช่หรือไม่ แล้วค่อยมาประชุมต่อวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) ใช่หรือไม่ โดยนายศุภชัยชี้แจงว่า ถ้าไม่ครบองค์ประชุมก็ถือว่าปิดประชุม ถ้าองค์ประชุมครบก็ต้องพิจารณาวาระต่อ
จากนั้น เริ่มขานชื่อนับองค์ประชุม โดยระหว่างการนับคะแนน นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พยายามท้วงให้ผู้ที่เป็นกรรมการนับคะแนน ซึ่งเป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน แสดงตนด้วย เช่นเดียวกับ นายจุลพันธ์ ในฐานะผู้เสนอญัตติก็ต้องแสดงตนด้วย หากไม่อยู่ในห้องประชุมถือว่าผิดข้อบังคับ ดังนั้นอย่าพยายามหาเหลี่ยมหาคู ประชาชนเขาเบื่อ
ภายหลังจากใช้เวลานับองค์ประชุมนานกว่า 1 ชั่งโมง นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ประกาศผลการนับองค์ประชุมว่า มีจำนวน 268 คน ถือว่าครบบองค์ประชุม
จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนน 313 ต่อ 2 งดออกเสียง 2 ผ่านร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ในวาระ 3 ก่อนส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป
