‘รุ้ง’ ประกาศนำม็อบมุ่งหน้า สน.ปทุมวัน หลังผู้ชุมนุมโดนรวบ มวลชนเคาะหม้อลงถนนแล้ว

‘รุ้ง’ ประกาศนำม็อบมุ่งหน้า สน.ปทุมวัน หลังผู้ชุมนุมโดนรวบ มวลชนเคาะหม้อลงถนนแล้ว

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ บรรยากาศกิจกรรม ‘รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ’ โดยกลุ่มราษฎรซึ่งนัดหมายที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน ในเวลา 16.00 น. กระทั่งเวลา 17.00 น. มีการประกาศรวมพลหน้าลานหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระรามที่ 1 ด้านล่างสกายวอล์ก โดยประกาศเปิดปราศรัยวิพากษ์การทำงานของรัฐบาล จากนั้นมีการผลัดขึ้นปราศรัยในประเด็นต่างๆ อย่างดุเดือด

เวลา 19.15 น. นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒกุล หรือรุ้ง ปราศรัยว่า วันนี้ควรเป็นวันของแรงงาน แต่เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้เพื่อนเรา 4 คนออกมา ซี่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ตนอยากถามว่า ทำไมถึงจงเกลียดจงชังคนเรียกร้องประชาธิปไตย

“แต่ละคนที่มาพูด มาแสดงความเห็น ไม่มีใครต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากประชาธิปไตย รัฐสวัสดิการ ให้ชีวิตดีขึ้นเท่านั้น รัฐบาลกลัวอะไรนักหนา ไม่เข้าใจ ทุกคนก็คงไม่เข้าใจเหมือนกัน เมื่อวานเพื่อนเราเข้าคุก 4 คน วันนี้ตั้งแต่เริ่มกิจกรรม มีคนถูกจับแล้วเช่นกัน บางคนมาเข้าร่วม บางคนมาถือป้าย ชูป้าย ผิดอะไรนักหนา กลัวแค่ป้ายอย่างนั้นหรือ

เมื่อวาน เราบอกว่า เป็นวันที่เราเปิดศักราชการต่อสู้กับเผด็จการอีกครั้ง และเรามาชุมนุมที่นี่โดยจำนวนมากกว่าเมื่อวานนี้ 4-6 เท่า รัฐบาลประเมินม็อบเราต่ำไป อย่าคิดว่าการมีโควิดจะทำให้คนลืม 3 ข้อเรียกร้องซึ่งยังคงอยู่ ได้แก่
1. ประยุทธ์และองคาพยพออกไป
2. รัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชน
3. ปฏิรูปสถาบัน” นางสาวปนัสยากล่าว

Advertisement

นางสาวปนัสยากล่าวว่า เราไม่หยุดแค่นี้ เพราะเพื่อนเราถูกจับวันนี้ ไม่ว่าเป็นใคร เขาคือคนสำคัญ เราจะไม่ปล่อยให้ตำรวจมีมาตรฐานในการทำงานเช่นนี้ เราจะไม่ยอมให้คุมตัวคนมั่วซั่วไม่ยอมให้มีใครแม้คนเดียวถูกจับอีก วันนี้ ขอให้ทุกคนไปกับเรา

จากนั้น ประกาศชวนประชาชนเดินเท้าราว 1 กม. จากหน้าลานหอศิลป์ กทม.มุ่งหน้า สน.ปทุมวัน เนื่องจากในกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้ถูกจับกุมหลายราย ต่อมา ผู้ชุมนุมลุกขึ้นจากลานหน้าหอศิลป์ ลงถนนพระรามที่ 1 มุ่งหน้าสน.ปทุมวัน

จากนั้น เวลา 19.30 น. ประชาชนลงถนน เดินเท้าบนถนนพระรามที่ 1 เลี้ยวขวาที่แยกปทุมวัน โดยระหว่างทางมีการตีหม้อเป็นสัญลักษณ์ และตะโกนปล่อยเพื่อนเรา ขี้ข้าเผด็จการ

Advertisement

เวลา 19.35 น. ขบวนเดินเท้าผ่านหน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง โดยนางสาวปนัสยาร่วมขบวนด้วย ในขณะที่เดินได้ตะโกนให้ปล่อยเพื่อนเราพร้อมเดินจับมือกันเป็นหน้ากระดาน

จากนั้น เวลา 19.38 น. ขบวนเลี้ยวขวาจากถนนพญาไท เข้าสู่ซอยจุฬาฯ 12 โดยมีการพ่นสีสเปรย์บนพื้นถนน เป็นข้อความสนับสนุนยกเลิก มาตรา 112

เมื่อเวลา 19.40 น. หัวขบวนได้เกินทางถึง สน.ปทุมวัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวแทนผู้ชุมนุม มาเจรจา โดย นางสาวปนัสยา เป็นผู้เข้าไปเจรจา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image