‘รุ้ง’ ตั้งเป้าพา 2 ล้านคนลงถนน จ่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา เล็งประกาศวันต่อวัน

‘รุ้ง’ ตั้งเป้าพา 2 ล้านคนลงถนน จ่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา เล็งประกาศวันต่อวัน

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 20.50 น. นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ปราศรัยหน้าสน.ปทุมวัน หลังผู้ร่วมกิจกรรม ‘รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ’ ได้รับการปล่อยตัว

นางสาวปนัสยากล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดศักราชการต่อสู้ ตำรวจใช้กำลัง มีการปะทะ แต่แค่เล็กน้อย เพราะเราทุกคนมีวุฒิภาวะสูง ต่อจากนี้ไม่ว่าอีกนานเท่าไหร่เรายังต้องยึดมั่นสันติวิธีซึ่งถือเป็นการต่อสู้วิธีหนึ่ง

“มีคนถามว่าทำไมเราไม่รุนแรง เราไม่ได้บอกว่าสันติวิธีคือการประนีประนอม ไม่จำเป็นต้องไปทำร้ายใคร เราสู้กับกองทัพ กับคนที่มีอำนาจมากกว่า สันติวิธีคือการสร้างความชอบธรรมให้เราออกมาพูดได้ว่ารัฐบาลทำงานห่วยอย่างไร นี่คือเหตุผล” นางสาวปนัสยากล่าว

Advertisement

นางสาวปนัสยากล่าวว่า อยากให้ทุกคนออกมาสู้นด้วยกัน ออกมาบนถนนเยอะๆ ให้เกินแสน ให้ถึง 2 ล้านคน เป้าหมายของเราในปีนี้คือการนำประชาชนลงถนนให้ถึง 2 ล้านคน

“ถ้าเราออกมาขนาดนั้นได้ ความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาประเทศก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีใครหายไปไหน เราแค่ไปเตรียมการว่าจะกลับมาอย่างไรให้ศักดินาตั้งตัวไม่ทัน วันนี้ เราเดินขบวนมา ไม่มีด่านมาสกัด เพราะไม่มีแผน ตำรวจไม่รู้ ขอให้ทุกคนตั้งสติ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะการเคลื่อนไหวนับจากนี้ จะประกาศวันต่อวัน จัดวันไหนบอกวันนั้นทางเพจราษฎร และเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” นางสาวปนัสยากล่าว

นางสาวปนัสยากล่าวว่า ขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาจากกลุ่มราษฎร ในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนจะเป็นที่ใด ให้ติดตามในเพจราษฎร

Advertisement

ทั้งนี้ นางสาวปนัสยาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงหนึ่งถึงประเด็นวัคซีนโควิดตอนหนึ่งว่า เรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่ยังไม่ได้คำตอบสมเหตุสมผลจากรัฐบาล หรือ สัญญาที่ไม่ได้ออกมาเปิดเผยและการที่วัคซีนมาช้า มาไม่เพียงพอจำนวนประชากรของประเทศไทยมันไม่สามารถหยุดโรคระบาดได้ เพราะถ้าจะหยุดโรคระบาดต้องให้คนใน 100 เปอร์เซ็นต์ มีภูมิคุ้มกันอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ถึงจะหยุดโรคระบาดได้ แต่ว่าวัคซีนตอนนี้ได้มาไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ ความเป็นความตายของคนอยู่ที่วัคซีน คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน อยากฝากไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และขอคำตอบว่า ที่ไม่ให้เอกชนรับวัคซีนเป็นเพราะมีผลประโยชน์อะไรทับซ้อนใช่หรือไม่ และต้องการคำตอบจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ว่า ที่ไม่รีบเร่งหาวัคซีนให้กับประชาชนมัวทำอะไรอยู่

เมื่อถามว่าความเห็นเปรียบเทียบระหว่างการเมืองไทยและประเทศเมียนมา และความยากในการต่อสู้ของประเทศไทยยากกว่าหรือไม่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ความยากของประเทศไทยอยู่ที่กลุ่มอำนาจ ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจที่อยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญและไม่ใช่ว่าประเทศไทยยากกว่า ทุกประเทศมีความยากในการต่อสู้ของในแต่ละประเทศเอง อย่างประเทศเมียนมาสู้กับทหารโดยตรง แต่ในประเทศเราสู้ทั้งทหารและกลุ่มอำนาจที่อยู่เหนือกฎหมาย ในส่วนตัวตนนับถือการต่อสู้ของชาวเมียนมาเป็นอย่างมากมันส่งพลัง ส่งแรงและกำลังใจให้กับพวกเรา

จากนั้น ประชาชนร่วมกันตีหม้ออย่างกึกก้องหน้าสน.ปทุมวัน ก่อนแยกย้ายกลับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image