09.00 INDEX ยุทธการ สมคบคิด การเมือง พลังประชารัฐ กับ 250 ส.ว.
ไม่ว่าญัตติการส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่ว่าญัตติการส่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ อันขับเคลื่อนโดยพรรคพลังประชารัฐ
เป้าหมายล้วนอยู่ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” เป้าหมายล้วนต้องการอาศัยกลไกจาก “รัฐธรรมนูญ” มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
แม้ว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 จะมาจากการเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลอันมีพรรคพลังประชารัฐเป็นกำลังที่สำคัญ
และดำเนินไปตาม 1 ใน 12 ของ “นโยบายเร่งด่วน” ที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562
แม้ว่าญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจจะเป็นการใช้อำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในการตรวจสอบ ควบ คุมการบริหารราชการแผ่นดินที่กระทำโดยฝ่ายนิติบัญญัติ
คำถามก็คือ พรรคพลังประชารัฐต้องการแสดงการเมืองอะไร
ทั้งที่ๆทุกอย่างกระทำไปตามกลไกของ “รัฐธรรมนูญ” ทั้งๆที่ทุก อย่างล้วนดำเนินไปตามบทบาทและหน้าที่ของ “อำนาจนิติบัญญัติ”
การเสนอให้ส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไปให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและตีความถูกมองว่าเป็นมาตรการหนึ่ง ในการเตะถ่วง รั้งดึงมิให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
และคาดหมายกันว่าเป้าหมายอย่างถึงที่สุดและแท้จริงก็คือ ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
เพราะว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
การร่วมมือกันระหว่าง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐกับ 250 ส.ว.ในกรณีนี้มีความแหลมคมอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ปฏิเสธต่อฝ่ายค้าน หากที่สำคัญยังเท่ากับปฏิเสธต่อพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน
ขณะเดียวกัน กรณีที่พยายามจะส่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจไปให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและตีความก็เท่ากับปฏิเสธบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติ
ความหมายอย่างตรงตัวที่สุดของพรรคพลังประชารัฐก็คือปฎิเสธบทบาทในการตรวจสอบและควบคุม”อำนาจบริหาร”
บทบาทและการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นการจับมือระหว่าง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กับ 250 ส.ว.อันมาจากการ แต่งตั้งโดยคสช.ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น
หากแต่ความร่วมมือนี้กำลังทำลายบทบาทและความหมายของอำนาจนิติบัญญัติให้ค่อยๆหมดสิ้นลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นยุทธการ “ยกหิน”ทุ่มใส่ขาตนเองโดยแท้