สาธิต ขอเคลียร์ ทำไมถึง ชวนคนไทยปั๊มลูก เหตุ โครงสร้างประชากร ส่อแววขาดแคลน สังคมสูงอายุมากขึ้น-ไม่มีแรงงานเพิ่ม กระทบทรัพยากร
วันนี้(11 กุมภาพันธ์) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กมติชนออนไลน์ อธิบายประเด็น สธ.ชวนคนไทยปั๊มลูก ว่า
“สำหรับปัญหาหาเรื่องนี้ คือ ปัญหาโครงสร้างของประชากร ที่ไม่ไช่กระทรวงสาธารณสุข หรือรัฐบาลจะเห็นปัญหา แต่ทุกองค์กร ที่ได้ทำงานเรื่องนี้มาติดต่อกัน ภาคประชาชน ภาคเอกชน องค์การระหว่างประเทศ เช่น UNSCR ราชวิทยาลัย อาจารย์หมอต่างๆ สภาพัฒน์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษา กระทรวง องค์กรต่างๆอีกมากมาย และ ที่สำคัญ คนที่เห็นต่างทางการเมือง พรรคการเมืองอื่นๆ คุณทักษิณ ชินวัตร คุณธนาธร คุณปิยบุตร คุณยิ่งลักษณ์ คนที่เข้าใจเคยทำงานบริหารประเทศ ก็มีความเข้าใจในปัญหาโครงสร้าง ประชากรของประเทศไทยเรา คือ เกิดน้อย ด้อยคุณภาพ ถ้าเราไม่แก้ไขปัญหาอะไรเลย จะทำให้ คาดกันว่าในปี 83 ประชากรของเรา จะมีทุกกลุ่มเกือบเท่ากัน เป็นรูปถังเบียร์ และถ้าปล่อยไปอีก อาจจะเป็นรูปลูกข่าง คือ คนสูงวัยจะมากขึ้น ด้วยปัจจัยคนอายุยืน เทคโนโลยี การแพทย์ทันสมัยขึ้น คนวัยเด็กและวัยทำงานจะผันแปร น้อยลงไม่มีคนดูแลผู้สูงอายุ รัฐต้องใช้ทรัพยากรที่มี คน เงิน สถานที่ ต่างๆ เพื่อดูแลผู้สูงวัย อธิบายแบบสั้นๆ จริงๆ มีหลายมิติมากกว่านี้ครับ ผมเชื่อว่า ทุกฝ่ายที่ผมกล่าวมาจะเข้าใจปัญหานี้ได้ดี แต่อาจมีวิธีแก้ปัญหา อาจต่างกันไปครับ (มีต่อครับ)”
“(ผมต่อนะครับ ) ผมเข้าใจได้ว่าถ้ามองเพียงระยะเวลาสั้นๆ อาจจะเห็นว่ามาคิดอะไรเรื่องนี้ ตอนนี้ไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานการณ์ก็อาจไช่ แต่หากเราไม่คิดแก้ปัญหา ตั้งแต่ตอนนี้ ปัญหาโครงสร้าง ปัญหาวางแผนครอบครัว (ซึ่งไม่ไช่การคุมกำเนิดอย่างเดียวอีกแล้ว) เราจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลาเป็นช่วงชีวิตจึงจะแก้ไขได้ และต้องแก้ในทุกรัฐบาลต่อเนื่องกันไป และเท่าที่รับฟังด้วยความเข้าใจ ทั้งคำวิพากษ์วิจารณ์ ความเห็นต่าง คำสบถ หรือเพียงแค่บ่น ออกมา นั้น โดยสรุปน่าจะเป็นประเด็นเรื่องความพร้อม ฐานะด้านเศรษฐกิจของคนจะมีบุตร ปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน ขาดรายได้จากสภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ ไม่ควรคิดเรื่องนี้ตอนนี้ คิดได้ยังไง หรือด่าอย่างเดียวที่เห็นผมเป็นนักการเมืองที่ตัวเองไม่ชอบ เหมารวมว่าเห็นต่างกันเป็นศัตรูกันไปหมด ส่วนใหญ่ไม่ได้มีเรื่อง ปัญหาสุขภาพเด็กและ แม่ เท่าไหร่ครับ
ก็ขอเรียนชี้แจงว่า เราประชุมหารือกัน ในปัญหาที่ทุกคนกังวล ในทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องปากท้องของคู่สมรสที่จะมีลูก รวมทั้งคุณภาพของเด็กที่จะเกิดมาทั้งในแง่ความพร้อมของฐานะคู่สมรส วิธีเลี้ยงดู พ่อแม่ให้เวลากับการเลี้ยงดูลูก เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะให้กับคู่สมรสเพื่อ ป้องกันโรคติดต่อที่จะส่งผลมาที่ลูก และ ต่างๆนานา ที่เราเป็นห่วง เข้าใจ เรานำมาประชุมเพื่อแก้ปัญหาที่ทุกคนกังวล โดยให้รัฐบาลเป็นผู้ช่วยเหลือให้เป็นนโยบาย
พูดง่ายๆ ที่ทุกคน เป็นห่วงวิพากษ์วิจารณ์ ด่าด้วยเรากำลังคิดหาวิธีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เป็นระบบและรอบคอบ ครับ”
พร้อมย้ำว่า คุณสมบัติของการเป็นนักการเมืองที่ดี และการเป็นผู้บริหารกระทรวง บริหารปัญหาของประเทศ คุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งคือ ต้องคิดแก้ไขปัญหาของชาติ ประเทศล่วงหน้า หรือมองไปข้างหน้าเพื่อจะไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น พร้อมกับ “ต้องอดทน ชี้แจงกับความเห็นต่าง ไม่เห็นด้วย ไม่เข้าใจ ไม่ว่าอะไรก็ค้านตำหนิ ด่าทอใว้ก่อน” เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับยุคสมัยนี้ ซึ่งขอย้ำว่าผมเข้าใจดี และมีคุณสมบัติข้อนี้ เต็ม 100%
