09.00 INDEX สภาพการณ์ เด่นชัด รัฐบาล สถานการณ์ ปากกล้า ขาสั่น

ประหนึ่งว่า การนัดติวเข้มภายในพรรคร่วมรัฐบาลระหว่าง ส.ส.กับรัฐมนตรี ซึ่งตกเป็น “เป้าหมาย” ของญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจของวิปรัฐบาลจะเป็นการเตรียมความพร้อม

อย่างน้อยก็ให้คนที่เชี่ยวชาญกฎหมาย เชี่ยวชาญการเมืองระดับ นายวิษณุ เครืองาม ได้ติวเข้ม

กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า “เอกภาพ” ภายในพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มส่อเค้าแห่งปัญหาหนักหน่วง และรุนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับอัน อาจทำให้คะแนน ”ไว้วางใจ” แปรเปลี่ยน

ไม่เพียงแต่เป็นปัญหา “ภายใน” ของพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นแกนนำสำคัญ หากที่ไม่ควรมองข้ามยังเป็นปัญหา ”ระหว่าง” พรรคพลังประชารัฐกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น

Advertisement

จากปมอันเนื่องแต่พรรคพลังประชารัฐไปสมคบคิดกับ 250 ส.ว.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงปมที่พรรคพลังประชารัฐดึงดันที่จะแย่งชิงพื้นที่จากการเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราช

ยิ่งกว่านั้น กระบวนพยุหะโยธาอันก้องกังวานมาจากพรรคร่วม ฝ่ายค้านก็ทวีความน่าวิตกชวนให้กังวลเพิ่มเป็นทวีคูณ

ความแหลมคมยิ่งของปัญหาอันจะตามมาจากญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ สัมผัสได้จากคำประกาศที่ว่าจะมีอย่างน้อย 5 รัฐมนตรีที่จะต้องถูกถอดถอน

Advertisement

อาจเพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านยัง ”กลไต๋” รายละเอียดใน 5 รัฐมนตรีอยู่ความหวั่นไหว จึงดำเนินไปเหมือนกับโรคระบาด

คล้ายกับในเบื้องต้นจะมีรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าจะเป็น นายสุชาติ ชมกลิ่น ไม่ว่าจะเป็น นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ เป็นด้านหลัก

กระนั้น คำถามที่ตามมาอย่างชวนให้สะทกระเนนเป็นอย่างยิ่งรัฐมนตรีอีก 2 คนจะเป็นใคร จะยังเป็นรัฐมนตรีที่แนบแน่นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐอีกหรือไม่

หรือว่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งในสังกัด “กลุ่ม 3 ป.”

ต้องยอมรับว่า การรักษาความลับอย่างคมเข้มของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้กลายเป็น ”อาวุธ” อันทรงพลานุภาพขึ้นมา

ก่อนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เมื่อตรวจแถวแนวรบทางด้านรัฐบาลก็จะสัมผัสได้ในความกลัวอย่างเด่นชัด เป็นความกลัวจากสถานการณ์ทั้งในรัฐสภาและจากนอกรัฐสภา

เพราะ ”ราษฎร” ที่เริ่มต้นยกที่ 1 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เริ่มมีระลอกใหม่ตามมาอย่างไม่ขาดสายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image