‘บิ๊กตู่’ แนะ ‘อนุทิน’ มือใหม่เจอซักฟอก เตือน รมต.อย่าเครียด ให้ยิ้มไว้เมื่อภัยมา
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา แจ้งว่า ในที่ประชุม ครม. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.ให้ทราบถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ ว่าฝ่ายค้านจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นคนแรก โดยใช้เวลาวันครึ่ง จากนั้นจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นโควิด-19 และการจัดหาวัคซีน
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์พูดว่า ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการชี้แจงของรัฐบาลมากที่สุด หวังว่าคะแนนอภิปรายต้องใกล้เคียง ทุกพรรคต้องร่วมรับผิดชอบร่วมกัน ขออย่าให้มีปัญหาภายในซึ่งกันและกัน ส่วนนายอนุทินได้สอบถามกับที่ประชุมว่าต้องรอให้ฝ่ายค้านอภิปรายจบก่อนแล้วจึงค่อยชี้แจง หรือสามารถลุกขึ้นชี้แจงได้ในระหว่างนั้นเลย ที่ถามเพราะตนไม่เคยถูกอภิปรายมาก่อน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ต้องรอ หากให้เขาพูดข้างเดียวเดี๋ยวเสียหาย ให้ทยอยตอบ แล้วตอนท้ายเก็บอีกทีหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ให้กำลังใจรัฐมนตรีคนอื่นๆ ว่าไม่ต้องเครียด ยิ้มไว้เมื่อภัยมา รวมกันไม่มีใครทำอะไรเราได้ ตนก็จะอดทนฟังอย่างใจเย็น เพราะเป็นคนจุดเดือดต่ำ จะสงบนิ่งที่สุด พูดน้อยที่สุด ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจง ให้ดูจังหวะให้ดี แม้แต่ตอนเขาโจมตีตนท่านก็ต้องช่วยชี้แจง พร้อมกับแนะนำกับนายอนุทินด้วยว่า “รู้ว่าหนูเป็นคนใจร้อน พูดให้ใจเย็นๆ เอาเหตุผลนำ”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีหลายคนได้เสนอแนะให้ใช้ช่องทางการสื่อสารของรัฐในการช่วยชี้แจงต่อประชาชนด้วย อาทิ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่อยากให้ใช้สื่อของรัฐนำสิ่งที่รัฐมนตรีพูดไปเผยแพร่ ส่วนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้มีการติดตามการนำเสนอข่าวของสื่อฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลด้วย เพื่อจะมีการชี้แจง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวาระสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดตอนหนึ่งที่น่าสนใจว่า “ขอความร่วมมือทุกท่านทำทั้งการบ้านและการเมือง การเมืองคือดูแลประชาชนให้ดี ผมจะพิจารณาเป็นรายพรรคไปถ้ามีปัญหา”
นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตอีกว่าในตอนท้ายการประชุมครั้งนี้ นายกฯได้แซวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สองแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นมุ้งหนึ่งในพรรค และมีข่าวว่าอยู่เบื้องหลังที่จะทำให้นายณัฏฐพลได้คะแนนน้อยที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า “พี่สันติยิ้มหน่อย นัสยิ้มหน่อย”
ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยังได้รายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า จะมีการจัดชุมนุมขนาดเล็กทั่ว กทม. โดยในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจจะจัดชุมนุมต่อเนื่อง โดยจับตา 3 จุดสำคัญคือ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมกับประเมินว่าความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาจะเข้มข้นขึ้น ฝ่ายค้านจะเน้นสร้างกระแสสังคม เน้นเรื่องที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชน ส่วนในโซเชียลมีเดียจะสร้างกระแสเรื่องมาตรา 112 เรื่องการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล แสวงผลประโยชน์จากสถานการณ์ในเมียนมาโดยสอดแทรกเรื่องการเมืองไทยไปด้วย
นอกจากนี้ช่วงท้ายการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวถึงกรณีมีคนแอบอ้างชื่อว่าสนิทกับตนเองเพื่อไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวว่า ตนรู้จักทุกคน แต่ไม่รู้ใจ ถ้าใครที่ไปแอบอ้างว่าสนิทกับตนเพื่อไปแสวงหาผลประโยชน์ ใครเชื่อก็โง่แล้ว