‘ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย’ จี้ ‘ธรรมนัส-วราวุธ’ เซ็นบันทึกข้อตกลง แก้ปัญหาเร่งด่วน-ไม่ข่มขู่คุกคาม เผย ไม่มาภายใน 1 ชม.จะตามหาลายเซ็น พร้อมยกระดับ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยและภาคีเซฟบางกลอย พร้อมด้วยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ และชาวปกากะญอแห่งบ้านบางกลอย กลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและภาคี ประกอบด้วย ผู้แทนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี, ผู้แทนชาวกะเหรี่ยงภาคเหนือ, ผู้แทนชาวกะเหรี่ยงจากเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเขตงานตะนาวศรี ที่ปักหลักชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้อ่านแถลงการณ์กลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและภาคี เซฟบางกลอย โดยในแถลงการระบุบว่า
จากสถานการณ์ที่กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 36 ครอบครัว หรือประมาณ 70 คน เดินเท้ากลับใจแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ปรากฏเป็นข่าวว่าถูกทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และทหารทัพพระยาเสือได้พยายามข่มขู่ว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับชาวบ้าน
กระทั่งสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรากฏภาพการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ และทหารรบพิเศษที่ 1 แก่งกระจาน ตั้งจุดตรวจค้นก่อนเข้าเขตหมู่บ้านบางกลอย โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้นำชุมชนหรือชาวบ้านทราบถึงเหตุผล
และจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกระจายดักซุ่มตามเส้นทางที่ชาวบ้านใช้เดินขึ้นลงหมู่บ้านบางกลอยล่าง ไปยังบางกลอยบน และใจแผ่นดิน ยังมีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 นาย เดินเท้าผ่านหมู่บ้านไปยังบริเวณห้วยโป่งลึก ซึ่งจากนั้นไม่นานชาวบ้านได้ยินเสียงปืน 3-4 นัด จากทิศทางที่เจ้าหน้าที่เดินเข้าไป
การดำเนินการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เป็นการข่มขู่ คุกคาม ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว อาจจะนำไปสู่การกระทำอันรุนแรง ด้วยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นขึ้น และเป็นการเข้าไปใช้กำลังกับชาวบางกลอยดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในเหตุการณ์ยุทธการตะนาวศรี เมื่อปี 2553-2554
และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวแนวทางการแก้ปัญหา ชาวกะเหรี่ยงบางกลอยกลับใจแผ่นดิน โดยระบุบว่า กระทรวง ทส.ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางแก้ปัญหา โดยจำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจและการถอยคนละก้าว พร้อมกับยื่นยันว่ามีประชาชนเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ที่เดือนร้อนและไม่พอใจ ต่อกระบวนการแก้ปัญหาที่ผ่านมา
การแถลงของ รมว.ทส.สะท้อนให้เห็นว่า รับฟังข้อมูลจากฝ่ายรัฐเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ให้ความสำคัญข้อมูลและเสียงเรียกร้องของชาวบ้านบางกลอยและภาคประชาชน ซึ่งข้อมูลจากฝั่งราชการไม่ตรงกับความเป็นจริงในพื้นที่ถือเป็นการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐเพิกเฉยต่อการรับผิดชอบในการแก้ปัญหาที่เรื้อรังมากว่า 25 ปีและเป็นการให้ท้ายเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน
หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือผ่านทาง ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองประธานคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาของพีมูฟให้ดำเนินการข้อเรียกร้องเร่งด่วน 3 เรื่อง แต่ถึงอย่างไร ชาวบ้านบางกลอยและกลุ่มภาคีเซฟบางกลอยยังไม่วางใจว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหา จึงจะทำบันทึกข้อตกลงเพื่อให้รัฐบาลร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่และผู้แทนภาคีเซฟบางกลอยลงนาม ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส รมช.เกษตรฯ นายวราวุธ รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส. ผู้แทนพีมูฟ ผู้แทนภาคีเซฟบางกลอย ผู้แทนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย เพื่อให้มีแนวทางชัดเจน อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และเป็นหลักประกันว่าผู้แทนชาวกระเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่มาปักหลักชุมนุมในครั้งนี้ ทั้งกระเหรี่ยงบางกลอยล่าง และบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน สามารถดำเนินวิถีชีวิตได้อย่างปกติสุข ปราศจากการข่มขู่ คุกคาม ดำเนินการทางกฎหมายและใช้ความรุนแรง
โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมให้เวลาผู้ที่มีรายนามข้างต้นที่จะต้องลงนาม มาลงนามต่อหน้ากันที่บริเวณที่ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้ ภายในเวลา 1 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่สามารถลงนามกันได้ก็จะยกระดับการชุมนุม เพื่อไปตามหาทุกคนถึงที่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดกระทรวง ทส. จะเป็นตัวแทนมาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีกิจกรรมทำพิธีกะเหรี่ยงไหว้เจ้าที่เจ้าทาง กิจกรรมตามหาลายเซ็น เสวนาเรื่องคืนความเป็นธรรมให้ใจแผ่นดิน
