‘ศักดิ์สยาม’ แจงประเด็นโฮปเวลล์ ยันไม่นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างหาตัวคนผิดมารับโทษ
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา เกียกกาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวชี้แจงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย โจมตีกรณีโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (โฮปเวลล์) ว่า สำหรับโครงการโฮปเวลล์เป็นโครงการที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 โดยมีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยกเลิกดำเนินการปี 2541 ซึ่งฝ่ายค้านที่แจ้งว่าอาจมีความเสียหายเกิดขึ้น กลายเป็นค่าโง่ที่ศาลปกครองได้วินิจฉัยเมื่อเดือนเมษายน 2562 เรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคมได้ศึกษาข้อกฎหมายและได้นำเรื่องเสนอให้ ครม. พิจารณาเพื่อวินิจฉัยในการออกคำสั่ง ในการหาตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งเรื่องนี้มีการออกคำสั่งแล้วเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนกรณีที่เริ่มดำเนินการหาผู้กระทำความผิด เนื่องจากทางกระทรวงฯพยายามต่อสู้ หลังจากมีคำสั่งวินิจฉัยของศาล ทางกระทรวงฯ ได้นำเรื่องนี้ยื่นต่อผู้ตรวจราชการแผ่นดิน รัฐสภา เพื่อวินิจฉัยข้อสงสัย ข้อกฎหมายของกระทรวงคมนาคมไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากมีการวินิจฉัยแล้วสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการรื้อฟื้นคดีใหม่ก็จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการ
ขณะเดียวกัน ในการหาผู้กระทำความผิดตามพรบ.ละเมิดมาตรา 10 (2) ได้บัญญัติถึงสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ตามวรรค 1 ให้มีกำหนดอายุความ 2 ปีนับตั้งแต่ที่หน่วยงานของรัฐ รู้การละเมิดและรู้ตัวเจ้าหน้าที่ ซึ่งหมายความจะต้องดำเนินการทั้ง 2 เรื่อง ขณะนี้ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยมีการละเมิดเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมที่จะต้องมีการออกคำสั่ง ในการตั้งคณะกรรมการเพื่อหาตัวเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้ที่ละเมิดบุคคล องค์ประกอบทั้ง 2 เรื่องจึงจะนับรวมกับอายุความ 2 ปี แต่ในกรณีนี้ ถ้าคณะกรรมการได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าการละเมิดนั้น ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม ต้องรายงานกระทรวงการคลังเพื่อวินิจฉัยอีกครั้ง หากกระทรวงการคลังวินิจฉัยว่ามีผู้รับผิด กระทรวงคมนาคมต้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินคดีภายใน 1 ปี
“ไม่ต้องกังวลเพราะครม.ได้กำชับกระทรวงฯให้ดำเนินการเรื่องนี้ ภายใต้ระเบียบกฎหมายอะไรที่ถูกก็ต้องถูก อะไรที่ผิดก็ต้องผิด ไม่มีวันที่แกนนำรัฐบาลชุดนี้จะทำถูกให้เป็นผิด และทำผิดให้เป็นถูก” นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับ ประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย โดยเรื่องนี้ได้หารือกับทางสำนักงานเลขาธิการกฤษฎีกาแล้ว ว่าในเรื่องของการนับอายุความจะต้องมีการดำเนินการในเรื่องที่องค์ประกอบทั้ง 2 ส่วน คือ รู้ว่ารัฐมีการละเมิด และรู้ตัวเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากที่แต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ แล้ว จะมีการเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ และจะพยายามสรุปให้เร็วที่สุด เนื่องจากเรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก
“ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ห่วงใยกรณีนี้ หากมีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่จะเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้ สามารถส่งมาที่กระทรวงคมนาคมได้” นายศักดิ์สยาม กล่าว