‘แพทย์อาสา DNA’ แถลงข้อเท็จจริง ปมสมาชิกถูก ‘ทำร้ายร่างกาย’ จ่อแจ้งความตร. 19 กพ.นี้

‘ทีมแพทย์อาสา DNA’ แถลงข้อเท็จจริง ปมสมาชิกถูก ‘ทำร้ายร่างกาย’ จ่อแจ้งความตร. 19 กพ.นี้

เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร (DNA) แถลงข่าวถึง ข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ ชุมนุมของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ กรณีสมาชิกทีมแพทย์อาสาฯ DNA ถูกทำร้ายร่างกาย และควบคุมตัว

โดยก่อนแถลงการณ์ ตัวแทนกลุ่มได้กล่าวแสดงจุดยืนว่า ทางกลุ่มเป็นการรวมตัวกันของบุคลาการทางการแพทย์ และอาสาสมัคร ประกอบด้วยบุคลากรหลายส่วน ซึ่งมาด้วยใจ ไม่ได้มาจากแพทยสภา อุปกรณ์ที่ใช้ก็ได้มาจากการบริจาค เรายึดหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ ทำงานโดยไม่เลือกฝ่าย ทำงานได้ทุกกลุ่มการชุมนุม และจะไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยได้มีการคัดกรองสมาชิกมาอย่างดี ตรวจสอบทั้งหน้างานและหลังงาน ซึ่งทุกคนที่ทำงานภายใต้ทีมนี้ จะได้รับการปกป้องพิเศษ ตามสนธิสัญญาเจนีวา

ตูน บุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัคร กล่าวว่า ไล่เรียงเหตุการณ์ จากตอนแรก ทางทีมได้ไปปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วง 18.00 น. จากนั้น มวลชนเคลื่อนย้ายพล มุ่งหน้าไปยังศาลหลักเมือง ทีมแพทย์จึงเคลื่อนย้ายตาม ซึ่งเมื่อไปถึงสนามหลวง จะมีจุดเซฟโซนที่เจ้าหน้าที่กั้นแนว ถัดลงมา เป็นรถปราศรัย โดยทีมแพทย์ได้ถอยเข้าไปตั้งจุดในแนวท้องสนามหลวง เพื่อเลี่ยงการปะทะ ระหว่างมวลชนและตำรวจ

Advertisement

ทั้งนี้ หลังยุติการชุมนุม ทีมแพทย์ได้เก็บข้าวของ อาทิ เตียงสนาม ไฟ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขึ้นรถ และถอยร่นออกมา ซึ่งก่อนถอยหลังรถออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าจะสลายการชุมนุม ในอีก 30 นาที ซึ่งยังไม่ถึง 10 นาที ก็มีการสลายการชุมนุมรอบแรก โดยทีมแพทย์ยังอยู่ในจุดเซฟโซน ก็พยายามเก็บของให้เร็วที่สุด จึงเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว

“ขณะออก เจ้าหน้าที่ตำรวจร่นไปยังแนวแรก จากนั้น กระชับพื้นที่เข้ามาในแนวที่ 2 ซึ่ง พี่กอล์ฟ รถสตาร์ทไม่ติด เจ้าหน้าที่ถอยร่นมาพอดี จึงล้อมรถไว้ ทางทีมเห็น จึงเคาะรถให้ตูนลงไป ตูนก็ลงไปดู เห็นเจ้าหน้าที่จำนวนมากพอควร ล้อมรถ จึงจะเข้าไปคุยว่า คนนี้คือทีมแพทย์ แต่ขณะที่ไปคุย มีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งมาล้อมตูนเช่นเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง วิ่งตรงไปทางน้องนิว ซึ่งกำลังยื่นมือโชว์ตัวตน เพราะตูนบอกทีมเสมอว่า ถ้ามีการสลายการชุมนุม ให้อยู่เฉยๆ และยกมือ ซึ่งน้องนิวก็ได้ยกมือตามคลิป จากนั้น ตำรวจบอกให้ทีมแพทย์ คร่อมรถมอเตอร์ไซค์ไว้ ขณะนั้น เสี้ยววินาที มีตำรวจกลุ่มหนึ่ง เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยไม่ได้สอบถามอะไร” ตูน กล่าว

จากนั้น “ตูน” เปิดคลิปหลักฐาน พร้อมอธิบายตามลำดับเหตุการณ์ เริ่มจากคลิปที่ “ตูน” ลงมาจากรถกระบะ เพื่อเดินเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

Advertisement

“ตูน” กล่าวว่า ชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รุมทำร้ายน้องกลางสะพาน เพรามีกระเป้ และรูป ความจริงมีคลิปชัดกว่านี้ แต่อยู่ที่ทนายความ

“ในส่วนคลิปที่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เป็นการเข้าใจผิดของคนกลุ่มหนึ่ง ว่าเห็นรถล้ม แล้วเจ้าหน้าที่ช่วยพยุง นั่นคือคลิปหลังน้องโดนทำร้ายและสลบไปชั่วครู่ ซึ่งหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จับกุมน้อง ไป ตชด.ภาค 1”

จากนั้น “ตูน” ได้เปิดคลิปวิดีโออีกคลิปหนึ่ง และว่า จะเห็นตอนที่น้องชูมือชัดเจน รวมถึงตอนคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งนี้ เรามีคลิปยาว และชัดเจน จะส่งให้กับทนายความ โดยทนายจะจัดการเรื่องทั้งหมด อีกครั้ง

“กอล์ฟ” หนึ่งในทีมแพทย์ที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนได้บอกเจ้าหน้าที่แล้วว่าเป็นแพทย์อาสา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ฟัง

“ตูน” กล่าวว่า ตอนถูกจับ ตำรวจให้เอาของออกจากตัวมากที่สุด ซึ่งเป็นจังหวะที่ตูนเข้าไปได้พอดี จึงยืนยันว่าเป็นทีมแพทย์ โดยเจ้าหน้าที่ถามถึงสิ่งของที่มี ตูนจึงอธิบายว่าเป็นสิ่งของที่แพทย์ใช้ปกติ เช่น ไฟ และกระบอง กรรไกรหัวทู่ ก็อธิบายจนเข้าใจ แต่หลังจากนั้นสักพัก เจ้าหน้าที่มาขอโทษ ตูน กับพี่กอล์ฟ ที่รุมล้อม และเอาน้ำมาให้กิน แต่ยังไม่รู้ว่าน้องนิวโดนทำร้าย มาทราบทีหลังว่าน้องโดนทำร้าย เป็นเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ที่บอกว่า ‘มีน้องคนนู้น น่าจะโดนจับกุม ไปดูไหม” จากนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า ยังดูไม่ได้ รออีกแป๊บนึง และให้ตามไปไล่ดูที่ สน. ซึ่งไม่เจอ น่าจะคุมตัวไปที่ ตชด.ภาค 1 แล้ว

ด้าน “นิว” ทีมแพทย์ที่ถูกรุมกระทืบ กล่าวว่า ตนได้ยกมือและบอกว่า เป็นทีมแพทย์ ตำรวจก็เรียกตนว่าทีมแพทย์เช่นกัน

“แต่ชุดหลังที่มาทำร้ายผม ไม่ได้พูดอะไรกับผมสักคำ ยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่นอน ไม่ได้แต่งกายคล้าย ที่มาทำร้ายผม ผมจำเหตุการณ์ไม่ได้ เพราะรู้สึกตัวว่าโดนทำร้าย ตื่นมาอีกที คือถูกจับกุมแล้ว”

ทั้งนี้ “นิว” เปิดเผยอีกว่า เมื่อตรวจร่างกาย มีรอยกระบอง ที่คอและหลัง ซึ่งจากการที่ “ตูน” พูดคุยกับหมอ อาจเกิดจากการโดนกระบองก่อนที่คอ จึงสลบไป จึงไม่รู้สึกหลังจากนั้น แต่บาดแผลมีในรูปและการทำแผนทั้งหมด

“หลังฟื้นจากสลบ ยังมีอาการปวดหลัง ชายโครงซ้ายและขวา รวมถึงศีรษะ ทำให้ขยับร่างกายรวดเร็วไม่ได้”

เมื่อถามว่า ภายหลังเกิดเหตุ ทางทีมฯ มีการทบทวนบทเรียน สำหรับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หรือไม่

“ตูน” เปิดเผยว่า ปกติ ทีมฯ จะทำงานทั้งในม็อบและไม่ใช่ในม็อบ เกิดเหตุอะไรก็ไปช่วยดู ไปทำบ้าง และกลับมาคุยกันว่า เกิดแบบนี้ขึ้น จะปรับปรุงอย่างไร และคุยกับพี่ในทีมว่า เคสแบบนี้ควรรักษาแบบไหน กรณีนี้ เราก็กลับมาคุยกันว่า เราควรจะจัดการอย่างไร และ ตำรวจจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่บอกว่า รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและขอโทษ แต่เป็นการพูดคุยกับตูนส่วนตัว โดยจะช่วยเหลือในครั้งถัดไป จะเอาเจ้าหน้าที่ สัก 3 คน มากันเจ้าหน้าที่คนอื่นไว้ให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุอีกหรือไม่

ต่อไปนี้ เราจะแต่งกายให้ครบเครื่อง อยู่ในจุดเซฟโซน และ ต้องตะโกนให้เร็วที่สุด หากมีเหตุ ให้เขารู้ว่าเราคือทีมแพทย์

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ เรามีการพูดคุยกันตลอดว่า ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้รักษาตัวให้ปลอดภัยก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถช่วยคนอื่นได้ อีกทั้งวันนั้น เราไม่ได้เคลื่อนเข้าไป แต่วงล้อมเคลื่อนเข้ามา

เจ้าหน้าที่รู้ทั้งหมด แต่ไม่รู้จะสื่ออะไร ไปถึง ตชด. ก็แยกน้องออกมาคนเดียว ให้กันน้องเป็นพยาน ไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่พอไปถึง เราเห็นน้องนิวนั่งคนเดียว จึงไปพูดคุยกับน้องนิว และตำรวจ เขาทราบทั้งหมดว่า คือบุคลากร และเมื่อทราบจากทนายว่าเราจะแจ้งความกลับ จึงยื่นข้อเสนอกับทนาย ซึ่งต้องสอบถามทนายอีกครั้งว่ายื่นข้อเสนออะไร”

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร (DNA) เปิดเผยว่า จะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยทนายความ ในวันศุกร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 09.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image