“ทวี” พาดพิงปู่ชัย ถาม “ศักดิ์สยาม” บ้านเขากระโดง ทำไมถึงออกโฉนดได้-เจ้าตัวลุกโต้

“ทวี” ถาม “ศักดิ์สยาม” บ้านพักในที่ดินเขากระโดง เหตุใดออกโฉนดได้ ทั้งที่ศาลฎีกาเคยตัดสินให้เป็นที่สงวนหวงห้าม

วันนี้ (18 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเป็นวันที่ 3 โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) อภิปรายว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายร่วมกันถือครองบุกรุก และพักอาศัยในพื้นที่สมบัติของแผ่นดิน หรือที่สงวนหวงห้ามที่มีไว้เพื่อประโยชน์ประชาชนโดยรวม ที่รถไฟเขากระโดง จ.บุรีรัมย์

พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่วินิจฉัยที่ดินทั้งแปลง ระบุว่าหลังปี 2560 สถานะของที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่สงวนหวงห้ามไว้เป็นที่รถไฟ ใครที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่นี้จะต้องมีการขับไล่ และเพิกถอนสิทธิ์ ไม่สามารถมีใครมีเอกสารสิทธิ์ที่ดินส่วนนี้ได้ แต่บ้านพักของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ สิ่งที่รัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง และเป็นเรื่องสำคัญ คือทุกคนต้องถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม แต่หลังจากศาลฎีกาตัดสินแล้ว การรถไฟฯได้ไปฟ้องให้เพิกถอนโฉนดชาวบ้าน ซึ่งศาลก็สั่งให้เพิกถอน

ดังนั้น วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานของรัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควรฟ้องทุกคนไม่ใช่ฟ้องเฉพาะคนใดคนหนึ่ง และเมื่อได้ข้อยุติแล้วจะต้องทำให้ถูกต้องตามคำพิพากษา และทำอย่างไรที่จะเอาที่ดินสงวนหวงห้ามที่เป็นที่ดินสาธารณสมบัติกลับมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของการรถไฟฯ และรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ต้องเอาที่ดินคืนให้การรถไฟฯในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ นี่คือการกระทำที่ผิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม และจริยธรรมนักการเมืองหรือไม่

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในส่วนของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะดูแลกรมที่ดิน เมื่อศาลฎีกามีคำตัดสินสิ้นสุดแล้ว ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวภายใน 60 – 90 วัน แต่ท่านกลับปล่อยเรื่องนี้มาตลอด หรือท่านนำเรื่องนี้เป็นข้อสมประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำความจริงให้ปรากฎ

Advertisement

นายศักดิ์สยาม กล่าวชี้แจงว่า ภาพรวมที่ดินการรถไฟแห่งประเทศทั่วประเทศกว่า 2.4 แสนไร่ มีการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดิน 2 ช่องทาง คือ จากการเวนคืน และได้มาโดยเหตุอื่นๆ ตนไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องการบริหารที่ดินของการรถไฟฯ ซึ่งกรณีที่ดินเขากระโดง การรถไฟฯได้สำรวจผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในพื้นที่เมื่อปี 2550 พบว่ามีผู้ถือครองเอกสารสิทธ์ ใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (สค.1) มากกว่า 35 ราย เอกสาร นส.3 ประมาณ 500 ราย เอกสารครอบครองที่ดินเป็นโฉนด และหน่วยงานราชการจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันที่ดินแยกเขากระโดงมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์หลายราย ซึ่งการรถไฟดำเนินการอยู่

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวที่อ้างถึงเป็นที่ดินที่มีโฉนดเลขที่ 3466 มีการซื้อขายกันมาจนออกเป็นโฉนด มีการชี้แนวเขตโดยวิศวกรการรถไฟ และมีประชาชนอยู่ในที่ดินบริเวณดังกล่าวมานานขนาดที่ว่า เราเกิดกันไม่ทัน ตนในฐานะรมว.คมนาคม ดำเนินการและสั่งการให้ยึดหลักธรรมภิบาล คุณธรรม โปร่งใสตรวจสอบได้ ยืนยันว่า ตนไม่เคยแทรกแซง สั่งการใดๆในที่ดินดังกล่าว ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่า คนใกล้ชิดหรือไม่ใกล้ชิดต้องยึดหลักภายใต้หลักกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของ พ.ต.อ.ทวี นั้นส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายดังกล่าวเป็นระยะ ซึ่งพ.ต.อ.ทวี ใช้สิทธิพาดพิงโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า “มีในบันทึกด้วยว่า พ่อชัยชิดชอบ ได้เข้าไปอยู่อาศัยในที่ดินของการรถไฟด้วย” ทำให้ นายศักดิ์สยาม ลุกขึ้นกล่าวตอนหนึ่งว่า “เรื่องที่พาดพิงถึงบิดาของผมนั้น ผมไม่โกรธ แต่ไม่แน่ใจว่า ทายาทคนอื่นจะโกรธหรือไม่ หากเขาโกรธ ขอให้ท่านเตรียมรับหมายศาล”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image