‘ยุทธพงษ์’ แฉ ‘ณัฏฐพล’ ตั้งคนสนิทตัวเองนั่งเลขา สกสค. ปล่อยกู้-ออกเช็คมีนอกมีใน
วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อเป็นวันที่ 3
เวลา 18.50 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ข้อกล่าวหาที่ตนกล่าวหานายณัฏฐพล คือ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้สำนึก ขาดวุฒิภาวะ และความป็นผู้นำที่ดี เพื่อให้บุคคลหลายราย ซึ่งเป็นคนสนิทและพวกพ้องของตนเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ มีพฤติการณ์ฉ้อฉล จงใจปกปิดข้อมูล ผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ไม่ยึดหลักนิติธรรม เลือกปฏิบัติ ไม่ยึดถือหลักธรรมาภิบาล ในกรณีการแต่งตั้งรองเลขาธิการ สกสค. , เลขาธิการ สกสค., เลขาธิการคุรุสภา และข้าราชการระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการหลายรายที่สนองตอบ การกระทำโดยไม่ชอบของนายณัฏฐพล ให้ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ โดยขัดต่อหลักธรรมาภิบาล และหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การแบ่งงานในกระทรวงศึกษาธิการ นายณัฏฐพล รัฐมนตรีดูแล สพฐ. สอศ. ศธ. และสกสค. หน่วยงานดีๆไม่แบ่งให้รัฐมนตรีช่วยดูเลย รัฐมนตรีเหมาหมด ทั้งนี้ สกสค.มีเงินเป็นหมื่นล้านคือ เงิน ชปค. และเงิน ชปส. ขณะที่รายได้ไม่ต้องนำเข้ารัฐ สามารถนำไปบริหารจัดการเองได้ โดยมีข้อบังคับให้บริหารตามหลักธรรมาภิบาล นายณัฏฐพลในฐานะรัฐมนตรีมีหมวกอีกใบเป็นคือเป็นประธานบอร์ด สกสค. มีคณะกรรมการเป็นทั้งคนไทย และคนต่างชาติ
โดยเลขา สกสค. ชื่อนายธนพร สมศรี เป็นคนสนิทของนายณัฏฐพล อายุเพียง 44 ปี เดิมชื่อนายเอกพร สมศรี ชื่อเล่นชื่อ อ๋อ ได้รับการแต่งตั้งอย่างรวดเร็วมาก ตนจึงงสัยว่าเก่งอย่างไรถึงได้ขึ้นตำแหน่งรวดเร็วอย่างนี้ คนๆนี้จบคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเมื่อปี 48 นี้เอง ประสบการณ์ทำงานยังไม่มีเลย นายธนพรนี้เคยเป็นพนักงานขายนมมาก่อน ชื่อบริษัทนมหมอ ซึ่งบริษัทนมนี้ปิดกิจการไปแล้ว ต่อมานายณัฏฐพลมาสมัครเป็นส.ส.ลำดับที่ 1 ของพรรคพลังประะชารัฐ (พปชร.) ขณะที่นายธนพรอยู่ลำดับที่ 44
เมื่อนายณัฏฐพลได้เป็นส.ส.ก็เอานายธนพรมาเป็นข้าราชการเมืองในฝ่ายเลขาธิการของพล.อ.ประยุทธ์ ใส่ชุดข้าราชการถ่ายรูปหน้ากระทรวงศึกษาธิการ พร้อมโพสว่ามีวันนี้เพราะครูให้ ตนก็คิดว่าครูตั้นนี่แหละที่ให้ จากนั้น นายณัฏฐพลก็แแต่งตัวให้นายธนพรนี้มาเป็นเลขา สกสค. จากนั้น นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาฯ ได้แต่งตั้งนายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ นั่งรักษาการเป็นเลขาธิการ สกสค. โดยเอานายอรรถพล ตรึกตรอง ออก แล้วแก้ระเบียบคนที่จะมาเป็นรองเลขา สกสค.
จากเดิมที่ต้องมีวุฒิป.โท เป็นเหลือแค่ ป.ตรี เพราะนายธนพรมีวุฒิแค่ ป.ตรี เมื่อแก้วุฒิแล้วยังไม่พอแต่ยังเหลือระเบียบอีกข้อคือ ต้องเคยทำงานภาคเอกชนมาอย่างน้อย 12 ปี แล้วนายธนพรไปเคยทำงานภาคเอกชนที่ไหนมา 12 ปี เพิ่งเรียนจบมานี่เอง นายธนพรไม่ได้แสดงใดๆออกมาว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถพอที่จะมาเป็นผู้บริหาร สกสค.ได้ แต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 62 ก็ได้ย้ายนายธนพรออกจากสำนักงานเลขาธิการสำนักนายกฯ แล้ววันเดียวกันก็แต่งตั้งให้นายธนกรมานั่งเป็นรองเลขาธิการ สกสค. ทันที
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังการแต่งตั้งนายธนพร นายดิศกุล ซึ่งเป็นคนสนิทของปลัดกระทรวงศึกษาฯ ก็ได้มอบงานให้นายธนพรทันที เป็นงานใหญ่ๆทั้งสิ้น เช่น สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักการคลัง สำนักบริหาร และสำนักสวัสดิการ คุมเงินเป็นหมื่นๆล้าน วันที่ 13 กรกฎาคม 63 นายณัฏฐพล ได้ให้ปลัดกระทรวงศึกษาฯออกเกณฑ์สรรหาเลขาสกสค. และเลขาคุรุสภาคู่กัน ทั้งนี้ นายกฯมีคำสั่ง คสช. ที่ 17/2560 ว่าการแต่งตั้ง เลขาสกสค. และเลขาคุรุสภาต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขณะที่ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 6 ระบุให้ระบียบต่างๆต้องผ่านการประกาศใราชกิจจานุเบกษาก่อน แต่เมื่อตนไปค้นหาข้อมูลแล้วพบว่าไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นวันที่ 21 สิงหาคม 62 ก็มีการประกาศว่ามีใครผ่านเข้ามาสัมภาษณ์ ซึ่งมีนายธนพร และนายกฤตชัย อรุณรัตน์ โดยวุฒิการศึกษานายกฤตชัย จบป.โท จบครุศาสตร์มหาบัณฑิต การศึกษานอกระบบและโรงเรียน และมีประสบการณ์เคยเเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
เคยเป็นรองเลขาธิการสกสค. เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. ตัดภาพมาที่นายธนพร จบคณะเกษตรศาสตร์ เคยเป็นผู้จัดการบริษัทนมหมอจำกัด เคยเป็นเลขานุการทีมฟุตบอลบางกอกเอฟซี ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลของนายณัฏฐพล และเป็นรองเลขาธิการ สกสค. เพราะครูตั้นแต่งตัวให้ นายกฤตชัยมีคุณสมบัติเหนือกว่ามาก แต่กลับไม่ได้เป็นเลขาธิการ สกสค.
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นในวันที่ 1 กันยายน 62 มีการประชุม ครม. แต่ก่อนที่จะไปประชุม นายณัฏฐพลได้เซ็นต์คำสั่งแต่งตั้งนายธนพร เป็นเลขาธิการ สกสค. ในวันเดียวกัน แล้วให้นายดิศกุลออก แล้วให้การตอบแทนโดยการให้นายดิศกุลลาออกจากราชการในวันเดียวกัน จากนั้น วันที่ 2 กันยายน 62 ให้นายดิศกุลได้รับตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา วันที่ 1 รู้แล้วว่าวันที่ 2
จะได้เป็นเลขาธิการคุรุสภา เป็นไปได้อย่างไร รู้ล่วงหน้าได้อย่างไร เส้นทาง 1 ปี 4 วัน ทำลายหลักทุจริต ทำลายหลักธรรมาภิบาล ไม่ยึดถือ และปฏิบัติตามหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี ขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หลังจากที่ นายธนพรเป็นเลขา สกสค. แล้ว นายประเสริฐที่เป็นถึงปลัดกระทรวงยอมมาเป็นรองเลขาธิการ นายกฤตชัยก็มานั่งเป็นรองเลขาฯ
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็น คือ วันที่ 18 พฤศจิกายน 62 นายดิศกุล รักษาการผอ.สกสค. และรักษาการในตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าคุรุสภาด้วย จากนั้นวันที่ 28 พฤศจิกายน 62 แต่งตั้งนายศุภชัย ลิ้มณศิริ เป็นรองผอ.องค์การค้าคุรุสภา จากนั้นไปยืมเงิน 6 ธันวาคม 62 องค์การค้าฯ ก็มายืมเงิน สกสค. คนให้ยืมคือนายดิศกุล ผอ.องค์การค้าฯ
ขณะที่ผู้ยืมคือ นายศุภชัย รอง ผอ.องค์การค้าฯ อ้างว่าเอาไปพิพมพ์หนังสือ จำนวน 678 ล้านบาท แต่ตอนจ่ายเช็ค สกสค.จ่ายให้โรงพิมพ์ คือห้างหุ้นส่วนจำกัด วรรณชาติเพรส จำนวน 232 ล้าน ซึ่งตนสงสัยว่าเวลามารับเช็ค ทำไมไม่ไปรับเช็คที่โรงพิมพ์ แต่กลับไปรับเช็คที่ สกสค. หรือว่าเช็คมีเงินทอน หรือมีอะไรมาแลกเช็คหรือไม่