เยาวชนปราศรัยปม 112 จวก ‘ณัฏฐพล’ กลางสี่แยกบางโพ เตรียมสมทบ ‘รัฐสภา’ โต้กระแสม็อบแผ่ว
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากกรณีแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศนัดหมายชุมนุม ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ในเวลา 15.00 น.นั้น
เวลา 14.50 น. ที่สี่แยกบางโพ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มการ์ดปลดแอก พร้อมด้วยเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดย นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท รวมตัวกันบริเวณมุมหนึ่งของสี่แยกบางโพ เพื่อเตรียมเดินขบวนไปยังหน้ารัฐสภา เกียกกาย พร้อมกัน โดยส่งรถกระบะไปรับมวลชนบางส่วนที่ไปรวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเนื่องจากไม่ได้จัดการชุมนุมที่นั่น
ต่อมาเวลา 15.16 น. ประชาชนชายรายหนึ่งกล่าวบนรถขยายเสียงถึงมาตรา 112 ว่า ม.112 ที่เราเคยมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ล่าสุดน้องข้างบ้านโดน นอกจากเราเปลี่ยนผ่านจากยุคท่องจำสู่การวิพากษ์ เรายังเปลี่ยนผ่านจากความกลัวสู่ความเบิกกลัวได้แล้ว
เรื่องตั๋วช้าง สำหรับตนคือปรากฏการณ์ที่ทำให้รู้ว่าประเทศไทยมีระบบอุปถัมภ์ ที่ ส.ส.โรมพูดในสภา ทำให้เรารู้ว่าไทยยังมีระบบนี้อย่างหนาแน่น ปีที่แล้วเรามีระบบนายสั่งมา ปีนี้มาตั๋วช้าง เท่ากับการคอร์รัปชั่นไม่เคยถูกแก้ เราต้องไม่กลัว ต้องกล้าพูดถึงการคอร์รัปชั่นอย่างตรงไปตรงมา อยากให้ทุกคนกล้าพูดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“เราต้องไม่กลัว เราต้องเลิกกฎหมายเหล่านี้ที่ทำให้การวิพากษ์วิจารณ์เป็นอาชญากรรม นี่ปี 2021 แล้ว” ประชาชนชายกล่าว
จากนั้นเยาวชนชายกล่าวว่า ประเด็นสำคัญของการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ทำไม่ได้ เพราะเรามีฝ่ายค้านไม่เพียงพอ คือส่วนหนึ่งที่เราต้องออกมาเรียกร้อง ออกมาพูด เพราะในสภาเสียงของประชาชนในรัฐสภาถูกสืบทอดอำนาจโดย คสช. แต่วันนี้เราปลดแอกความกลัวแล้ว ขอให้ออกมาร่วมกันส่งเสียง ได้ทราบข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขอให้ทุกคนระวังตัวด้วย
“ส่วนในเรื่องการเยียวยาของรัฐบาล เราอายุ 17 ปี แต่มีภาระหน้าที่ หาค่าศึกษาเล่าเรียนเอง แต่เงื่อนไขของรัฐทำไมเด็กต่ำกว่า 18 ปี ไม่ได้รับการเยียวยา เขาไม่ต้องกินไม่ต้องใช้ชีวิตหรือ เขาก็มีหัวใจ” เยาวชนชายกล่าว
เยาวชนชายที่ถูกข้อหามาตรา 112 กล่าวถึงการอภิปรายในสภาเรื่อง ม.112 ว่ารัฐใช้กำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง จากการที่ตนเองโดน ม.112 เพราะวิเคราะห์สถาบัน เนื้อหาการวิเคราะห์ย้อนไปในอดีต ซึ่งกฎหมายคุ้มครองแต่ในปัจจุบันเท่านั้น
หลังจากโดน 112 ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ช่วยกันปั่นแท็กทวิตเตอร์ และช่วยกันติดตามตนอยู่
ด้าน “เพชร” เยาวชนอีกรายที่ถูกข้อหา ม.112 กล่าวว่า คืออีกคนที่โดน 112 จากการที่เยาวชน นิสิต นักศึกษา ออกมาเรียกร้องอนาคต เพราะอยากมีอนาคตที่ดี หลังประยุทธ์ยึดอำนาจมา 7 ปี เขารู้สึกไม่มีอนาคตจึงออกมาเรียกร้อง แต่โดน 112 โทษรุนแรงกว่าฆ่าข่มขืน ถามว่าเขาจะเอาอนาคตมาจากไหน ถ้าต้องเข้าคุกไปเพราะมาตรานี้ จำนวนเวลาติดคุกเกือบ 10 ปี
“ระบบการศึกษาก็ห่วยแตก ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ยังมีหน้ามาโยนเหรียญค่าอาหารนักเรียนในสภา ค่าอาหารตัวเอง เฉลี่ย 500 กว่าบาท แต่เด็กบนเขาบนดอยไม่มีข้าวจะกิน ไปโยนเหรียญอย่างนั้นได้อย่างไร ขอลงมติไม่ไว้วางใจ ณัฏฐพลออกไป” เพชรกล่าว
และว่า เราจะไปรวมตัวหน้ารัฐสภา เกียกกาย ให้รู้ไปเลยว่าม็อบไม่ได้แผ่ว
เวลา 16.40 น. นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือแอม บัณฑิต ม.ศิลปากร กล่าวว่า ขอให้คนที่อยู่ในสภาฟังเสียงประชาชนบ้าง
“พวกเราทนไม่ได้กับรัฐบาล กับการโกงกิน และการทำรัฐประหาร เราต้องออกมาแสดงพลังเพื่อให้เห็นว่า เราไม่พอใจกับผลการอภิปรายครั้งนี้ อย่างไรก็ดี การทำกิจกรรมของเราทุกครั้งยึดมั่นในหลักสันติวิธี ฉะนั้น เราจะไม่ใช้ความรุนแรง หรือพกพาอาวุธ สิ่งของมีคมใดๆ เข้ามา ขอทุกคนช่วยกันจับตามองด้วย”
บรรยากาศการชุมนุมหน้ารัฐสภา มวลชนบางส่วนได้นำภาพของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ 4 ผู้ต้องหา แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ที่ถูกนำตัวไปฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดี รวมถึงป้ายยกเลิก 112 มาชูด้วย
