แพทย์อาสา ตีแผ่ความกลัวในวงการ เปิดใจปม ‘สลายชุมนุม’ ขอพูด เพื่อความยุติธรรม

ม็อบ

แพทย์อาสา ตีแผ่ความกลัวในวงการ เปิดใจปม ‘สลายชุมนุม’ ขอพูด เพื่อความยุติธรรม

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากกรณีแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศนัดหมายชุมนุม ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ในเวลา 15.00 น.นั้น

เวลา 19.05 น. ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ แพทย์อาสาเพศชายกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า แพทย์ถูกสอนให้ช่วยเหลือมวลชน ไม่ว่ามีความเห็นหรืออุดมการณ์อย่างไร

แต่ยังมีเจ้าหน้าที่หลายคนที่บอกว่าทำตามคำสั่งนาย ให้ปิดล้อม ให้ยิงแก๊สน้ำตา จับกุมก็จับ จับไม่ได้ใช้กระบองข้างกายรุมกระทืบเขา นี่คือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หรือ ขอยกตัวอย่าง 1-2 เหตุการณ์ที่ตำรวจทำร้ายประชาชน

“เหตุการณ์แรก ขอย้อนไป 13 กุมภาพันธ์ เมื่อมีการทำร้ายประชาชนที่สนามหลวง แพทย์อาสาถูกทำร้าย สิ่งที่ตำรวจนครบาลแถลงการณ์คือ นี่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และอยู่ในพื้นทีเสี่ยงเอง แต่แม้เขาจะไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่การไปช่วย 1 ชีวิตก็มีค่ามาก มีประโยชน์มากกว่าตำรวจที่ปิดถนน เอาแต่ยิงแก๊สน้ำตา ทำตามเจ้านาย ยิงกระสุนยางใส่ประชาชนแล้วพูดแค่ว่าไม่รู้ครับ ผมทำตามคำสั่งนาย ต่อให้เขาเป็นประชาชนทั่วไป ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ สมควรทำหรือไม่ ความเป็นคนยังมีหรือไม่ สุนัขบ้านผมยังมีสติมากกว่า” แพทย์อาสากล่าว และว่า

Advertisement

ย้อนไปที่รัฐสภา เดือนพฤศจิกายน ปี’63 เหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย รวมกันบ่ายสาม ผ่านไป 15-20 นาที มีรถน้ำมาฉีดสารเคมีใส่เรา นักศึกษาแพทย์อาสาเป็นทีมแพทย์เพื่อดูแลมวลชน แต่วันนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมแพทย์และรถพยาบาลอาสาที่ขอติดมาด้วย มีประชาชนเสื้อเหลืองโยนระเบิดปิงปอง ข้าวของ โยนประทัดใส่

ทีมแพทย์ไม่ว่ามีอุดมการณ์แตกต่างอย่างไร แม้เสื้อเหลืองบาดเจ็บ คฝ.บาดเจ็บ ทีมแพทย์ก็ต้องดูแล ผมอยู่ทีมประสานงานใกล้รัฐสภา เพื่อนบอกว่าทันระเบิดปิงปอง รถพยาบาลวิ่งวุ่นสี่แยกเกียกกาย หลายคนเข้าใจว่าเป็นการตีกันของคนเสื้อเหลืองกับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ คฝ.มัวแต่กั้นแนว ฟังเสียงนาย ไม่ได้มาช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว

Advertisement

“ตำรวจบอกกับนักข่าวว่าทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน ตามกระบวนการ ตามหลักสากล ไม่ได้ใช้กระสุนยาง ซึ่งวันนั้นทีมแพทย์โกรธมาก เพราะทุกคนกำลังวุ่นวายกับการดูแลผู้ป่วย ทุกคนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนบาดเจ็บสาหัส ที่ได้มาตรฐานนั้น กัดกร่อนผิวหนังประชาชน ผมร่วง เนื้อเยื่อฉีกขาด เรากัดฟันทำอะไรไม่ได้ แต่ตำรวจมาให้ข่าวแบบนี้ วันนี้สมควรที่จะพูดแล้ว

อีกเหตุการณ์สลายชุมนุม ปี’53 เจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังสลายชุมนุมที่มีมือเปล่า วันนั้นไม่ใช่แค่ทีมแพทย์ ยังมี ประชาชนทั่วไปบาดเจ็บสาหัส ให้ข่าวแค่ด้านเดียว ให้เจ้าหน้าที่รัฐดูมีความชอบธรรม คือความอัปยศของรัฐบาลชุดนี้”

แพทย์อาสากล่าวต่อว่า แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมด หลายคนคงสงสัยไม่ค่อยมีแพทย์ออกมาพูดปราศรัย ตนขอตีแผ่ความกลัวของพวกเรา ขอพูดอย่างไม่เอ่ยปากว่าเรากลัวเสียหน้าที่การงาน ที่จะต้องออกจากเซฟโซน กลัวโดนยึดใบประกอบวิชาชีพ ปัญหาการใช้ทุน และการเรียนต่อ ตนก็กลัวเหมือนกัน เพราะปีหน้าจะได้สอบใบประกอบวิชาชีพ และไปเรียนต่อ ก็กลัวว่าจะหมดสิทธิสอบ

“แต่ความเสี่ยงของผมน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับการกดทับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน แม้ว่าปีหน้าจะโดนตัดสิทธิเรียนต่อ ตัดสิทธิทุน หรือใบประกอบวิชาชีพ แต่ผมเชื่อว่าจะมีหมอ พยาบาล เภสัชกร ลุกขึ้นมาพูดเรื่อยๆ เราจะไม่ยอมเป็นแพทย์ที่ขี้ขลาด เราจะพูดเพื่อความยุติธรรม” แพทย์อาสากล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image