บทนำ : แก้ รธน.วาระ2

การประชุมรัฐสภาสมัยการประชุมนี้จะสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ โดยวาระการประชุมส่งท้ายระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ คือ การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ในวาระ 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการ 3 ฝ่ายได้พิจารณาแล้วเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการให้เลือกตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยังเห็นด้วยว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างขึ้นมาแล้ว แม้จะส่งให้รัฐสภาพิจารณา แต่ก็ไม่ต้องลงมติ โดยให้ส่งทำประชามติ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศได้ตัดสิน

เบื้องหลังแนวคิดดังกล่าวมาจากความต้องการผลักดันให้ประเทศคืนกลับสู่ความปรองดอง โดยเริ่มต้นที่การร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และไม่ให้กลไกที่เกิดจาก คสช.เข้ามาพัวพัน โดยเฉพาะวุฒิสภา ทั้งนี้ ได้ตั้งสมมุติฐานว่า เมื่อประชาชนเป็นผู้เลือกตัวแทนมายกร่างกติกาใหม่ และประชาชนอีกเช่นกันที่เป็นผู้ตัดสินร่างรัฐธรรมนูญที่ตัวแทนไปยกร่างขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองแล้ว การเริ่มต้นใหม่เพื่อความปรองดองจะเป็นจริงขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวจะไปถึงฝั่งฝัน
หรือไม่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะลงมติในวาระ 2 และหากผ่านการพิจารณาแล้วจะลงมติในวาระ 3 ภายใน 15 วันหลังจากนั้น และนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญส่งทำประชามติตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนด ขณะเดียวกัน ยังต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามที่รัฐสภามีมติให้ยื่นไปสอบถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันหรือไม่

ดังนั้น การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ จึงเป็นอีกวาระหนึ่งที่สำคัญทางการเมืองที่ประชาชนคนไทยสมควรได้ติดตามรับฟัง และร่วมกันพิจารณาถึงสาเหตุของการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นไปตามที่ผู้เสนอแก้ไขคิดไว้หรือไม่ นอกจากนี้ จะได้รับฟังว่ามีวิธีการใดอีกหรือไม่ที่ดีกว่า เร็วกว่า และเป็นประโยชน์มากกว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำเสนออีกหรือไม่ ทั้งนี้ ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น ต้องเป็นประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์ของรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน หรือวุฒิสภา เชื่อว่าหลังการพิจารณาผ่านพ้น ประชาชนจะรับทราบถึงเจตนาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้
ชัดเจนขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image