ย้ายทหาร จาก “รุ่น จปร.ตท.” สู่ “คอนเน็กชั่นต้นสังกัด” ลึกแต่ไม่ลับ โดย จรัญ พงษ์จีน

เคาต์ดาวน์ "บิ๊กหมู" ลา ทบ. ไยชื่อ "บิ๊กเจี๊ยบ" จึงมาแรง

ย้ายทหาร จาก “รุ่น จปร.ตท.” สู่ “คอนเน็กชั่นต้นสังกัด”

วันคล้ายวันเกิด ครบ 71 ปี ก้าวทะลุสู่ 6 รอบเต็มของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์” ที่เปิดบ้านพักมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) รับแขก

รั้วบ้านเปิดตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 11 สิงหาคม สีสันบรรยากาศคึกคักกว่าปีก่อน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และหัวหน้า คสช. ยังเสมอต้นเสมอปลาย เดินทางไปอวยพรด้วยตนเอง ตามด้วยเหล่าคณะรัฐมนตรีที่เป็นเครือข่ายนายทหารเก่า

อาทิ “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ขุนศึกในสังกัดกลาโหม หนักแน่นมั่นคง ผู้ดำรงอยู่ใน “ตำแหน่งหลัก” ไปกันครบครัน ตั้งแต่ “พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา” ปลัดกระทรวงมหาดไทย “พล.อ.สมหมาย เภาฏีระ” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด “พล.อ.ธีรชัย นาควานิช” ผู้บัญชาการทหารบก “พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง” ผู้บัญชาการทหารอากาศ “พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ” ผู้บัญชาการทหารเรือ และ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

Advertisement

2 คู่ชิงดำ เก้าอี้ ผบ.ทบ.คนใหม่ “พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร” เสนาธิการทหารบก และ “พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท” ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ยิ่งต้องมาปรากฏตัว

คล้อยหลัง มหกรรมตบเท้าไม่กี่อีดใจ บัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำฤดูกาล 2559 ที่กึกกัก ยักท่า ยังหาจุดลงตัวไม่ได้อยู่หลายวัน ก็หลั่งไหลออกมา ปูพรมผ่านสื่อสู่สาธารณะ แม้เป็นเพียง “โผ” ยังไม่ใช่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คอนเฟิร์มได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

“พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร” หรือ “บิ๊กแกละ” จาก ตท.17 เบียดโค้งสุดท้ายเข้าป้าย นั่ง ผบ.ทบ. “พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท” หรือ “บิ๊กเจี๊ยบ” ตท.16 ที่เติบโตมาจากสายรบพิเศษ หรือ “เบเร่ต์แดง” ถูกโยกพ้นทางปืน เป็น “รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด”

Advertisement

เป็น “บูรพาพยัคฆ์” เฉือนจมูก “วงศ์เทวัญ” เข้าป้ายศูนย์อำนาจใหญ่สุดอีกคำรบ

พร้อมกับเปิดพื้นที่ตำแหน่ง “5 เสือ ทบ.” ให้ “พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์” จาก ตท.18 แม่ทัพภาคที่ 1 อีกหนึ่ง “บูรพาพยัคฆ์” ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. กันยายน พ.ศ.2560 พลันที่ “บิ๊กแกละ” เกษียณ “บิ๊กเข้” ก็เข้าสวมตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนใหม่ ในลำดับถัดไป

เรียงลำดับไหล่ “5 เสือ” กองทัพบกเวอร์ชั่นใหม่ คาดว่า จะประกอบด้วย 1. “พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร” เป็น ผบ.ทบ. 2. “พล.อ.สิงหศักดิ์ อุทัยมงคล” ตท.17 จากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพ เป็นเชนคัมแบ็ก นั่ง รอง ผบ.ทบ. 3. “พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน” ผู้บัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. 4. “พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์” เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ 5. “พล.ท.สสิน ทองภักดี “รอง เสธ. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.17 ของ “บิ๊กแกละ” เป็น เสธ.ทบ.

ขณะที่ตำแหน่งหลักในส่วนอื่นๆ ลงตัวเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกันคือ “พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล” รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกระทรวงแทน “พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา” ที่เกษียณ “พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัต” เสนาธิการทหาร เป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แทน “พล.อ. สมหมาย เภาฏีระ”

กองทัพอากาศ “พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง” เสนาธิการทหารอากาศ เป็น ผู้บัญชาการทหารอากาศ แทน “พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง” ปาดหน้า “พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์” ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ และ “พล.อ.อ.ศิวเกียรติ ชเยมะ” รองปลัดกระทรวงกลาโหม โดยที่ “กองทัพเรือ” หัวไม่ส่าย เนื่องเพราะ “พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ” ยังมีอายุราชการอยู่ในตำแหน่งอีก 1 ปี

หัสเดิม ทหารที่เข้ามามีบทบาทในทางการเมือง พลังไฮเพาเวอร์ยกพวงมาจากเพื่อนร่วมรุ่น อาทิ “จปร.รุ่น 7” หรือ “ยังเติร์ก” ที่ประกอบด้วย “พล.ต.มนูญ รูปขจร-พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิต-พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี-พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” เคยใช้กำลังภายในกดดัน “พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์” อดีตนายพลตาหวาน ตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและหันมาสนับสนุน “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ขึ้นลิฟต์เป็นผู้นำประเทศคนใหม่ ซึ่งกาลต่อมา “ลูกรัก” เกิดพยศ ไปยืนคนละมุม และนายทหารยังเติร์กกลุ่มนี้ พยายามก่อรัฐประหาร 2 ครั้ง แต่ล้มเหลวทั้ง เมษาฮาวาย เมื่อต้นปี พ.ศ 2524 และ กบฏ 9 กันยายน 2528

เปิดพื้นที่ให้ขั้วอำนาจในกองทัพผลัดใบมาอยู่ในกำมือของ “จปร.5” รุ่น “พล.อ.สุจินดา คราประยูร-พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี” และได้แผ่อิทธิพลกว้างใหญ่ไพศาล คุม 4 เหล่าทัพไว้เสร็จสรรพ ภายใต้รหัสลับ “ชาว 0143” คุมทุ่งดอนเมือง โดย “พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล” กองทัพเรือ มี “พล.ร.อ.ประพัฒน์ กฤษณจันทร์” กุมบังเหงียน

แต่ทศวรรษหลังๆ ศูนย์อำนาจในกองทัพเปลี่ยนโมเมนตั้ม ผ่องถ่ายจาก “รุ่น จปร.ตท.” มาเป็นคอนเน็กชั่น “ต้นสังกัด”

มีสองเครือข่ายที่โดดเด่นสุดเวลานี้คือ “บูรพาพยัคฆ์” กับ “วงศ์เทวัญ”

“บูรพาพยัคฆ์” คือรหัสเฉพาะที่ใช้เรียกขานกลุ่มนายทหารของกองทัพบก ที่เติบโตมาจากกองพลทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ “ทหารเสือราชินี” ซึ่งเป็นหน่วยสังกัดอยู่ในกองพลทหารราบที่ 2 หรือ “พล.ม.2” ที่ตั้งค่ายคือจังหวัดชลบุรี

“บูรพาพยัคฆ์” มีบทบาทโดดเด่นทางการเมือง มีส่วนสำคัญยิ่งกับรัฐประหารในประเทศไทย ทั้ง พ.ศ.2549 และ พ.ศ.2557 รวมทั้งยังเป็นขั้วอำนาจที่เหนียวแน่นที่สุดในกองทัพบกในเวลานี้

แตะมือกันดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ติดต่อกันมาแล้วประกอบด้วย 1. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” 2. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” 3. “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” 4. “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” 5. “พล.อ.ธีรชัย นาควานิช” กับน้องนุชสุดท้าย ล่าสุด 6. “พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร” และวางลำดับไหล่ จะผงาดด้วยคนที่ 7. “พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์”

ขณะที่ “วงศ์เทวัญ” คือเอกลักษณ์ของเหล่าขุนศึก ที่เติบโตมาจากกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ สังกัดกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ “พล.1 รอ.” มีฐานที่มั่นอยู่ใน กทม.

ไม่ว่าจะ “บูรพาพยัคฆ์” หรือ “วงศ์เทวัญ” มีความผูกพันกันในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น และอุดมคติเดียวกัน จึงไม่ค่อยมีข่าวคราวปราฏถึงความขัดแย้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image