‘บิ๊กตู่’ เผยวันนี้ไทยมีวัคซีนแล้ว 2 บริษัท ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ยังส่งเอกสารมาไม่ครบ

นายกฯชี้วัคซีนเป็นของ ปชช. ย้ำไม่ปิดกั้นเอกชน แค่ขอรัฐดำเนินการช่วงแรกก่อน ระบุควรยินดีวัคซีนเข้าไทยมากกว่าใครฉีดคนแรก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าเรียนอีกครั้งว่าวัคซีนไม่ใช่ของนายกฯ แต่เป็นของประชาชนทั้งประเทศ เป็นการอนุมัติใน ครม.ร่วมกันในการจัดหาวัคซีน ซึ่งวันนี้ก็ได้มา 2 บริษัท และอีกหลายวัคซีนกำลังตามมา เพราะจำเป็นต้องนำมาขึ้นทะเบียน อย.ก่อน ซึ่งเมื่อมี อย.แล้วก็จะมีการฉีดเพิ่มเติมจากภาคเอกชนที่นำเข้ามา ซึ่งก็ว่ากันไป รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นตรงนี้ แต่ขอระยะแรกผ่านไปก่อน และทุกคนจะสามารถเสนอเข้าไปขอรับรองจาก อย.ได้ ก็จะมีฉีดเพิ่มเติม มันดีเสียอีกเพราะจะมีวัคซีนมากกว่า 65 ล้านโดส ที่เราเตรียมการไว้ปัจจุบัน หลายบริษัทได้เสนอมาแล้ว แต่ยังส่งเอกสารมาไม่ครบ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนบริษัทไหนก็ตามได้มีการติดตามความคืบหน้าการใช้วัคซีนในต่างประเทศ ซึ่งตนคิดว่าวัคซีนจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การท่องเที่ยวและการประกอบธุรกิจดีขึ้น ก็จะมีเรื่องการฉีดวัคซีน ถ้าฉีดแล้วมีใบรับรองเข้ามาประเทศก็อาจจะไม่ต้องกักตัว แต่จะต้องมีการติดตามว่าไปที่ไหน อย่างไรบ้าง เผื่อจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น ซึ่งรัฐบาลคิดอย่างรอบคอบ

เมื่อถามว่านายกฯได้รับคำตอบจากคณะแพทย์แล้วหรือยังว่าจะสามารถฉีดวัคซีนได้ในล็อตแรกอย่างที่ตั้งใจไว้ และจะมีรัฐมนตรีคนอื่นร่วมฉีดด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คำถามแบบนี้เป็นกระพี้ จะฉีดคนแรกหรือเปล่า คนที่สองหรือคนที่สาม ฉีดอะไร ถามมากระพี้ทั้งนั้น คำถามแบบนี้ตนว่าเป็นกระพี้ สิ่งที่เราน่าจะยินดีร่วมกันคือเรามีวัคซีนเข้ามาฉีดแล้ว การจะฉีดให้ใครเป็นเรื่องของคณะกรรมการจะพิจารณา และอยู่ที่ความสมัครใจของใครที่จะเป็นผู้ฉีดเท่านั้นเอง ประชาชนทุกคนก็มีส่วนร่วม และเขาก็เปิดช่องทางให้แล้ว ใครที่สมัครใจประสงค์จะฉีดก็ส่งรายชื่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข เท่าที่ทราบประชาชนส่วนหนึ่งก็อยากจะฉีดเพราะไว้ใจ อีกส่วนก็ลังเล อีกส่วนไม่ฉีดขอรอดูสถานการณ์ไปก่อน ก็เป็นเรื่องความสมัครใจ แต่สิ่งสำคัญสุดคือรัฐบาลต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับคนทั้งประเทศ โดยทยอยรับมา ทยอยจัดหาอย่างอื่นมา ทั้งภาครัฐ และเอกชนต่อไปด้วย ตนไม่ได้ปิดกั้นใคร ซึ่งระยะแรกต้องฟังข้อสังเกตและข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขถึงความปลอดภัยและหลักการในการขึ้นทะเบียนต่างๆ ก็ขอฝากภาคเอกชน ใครที่จะนำเข้าให้ไปขออนุมัติให้ถูกต้องตามระเบียบต่างๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image