อนุรักษ์ แจง ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ปมอภิปราย ‘บิ๊กตู่’ แต่งตั้งที่ปรึกษาทำความเสียหายปชช.
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงกรณีที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และมีสื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวคาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงกรณีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตัดสินเชื่อของบริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นได้ร้องเรียนผ่านคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน ว่า ทางธนาคารกรุงไทย จำกัด ได้นำหุ้นกู้ของบริษัทดังกล่าวไปขาย มูลค่า 4 พันกว่าล้านบาท และได้คอมมิชชั่นจากเรื่องนี้ 9.9 ล้านบาท
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 ธนาคารกรุงไทยได้เซ็นสัญญากับเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ว่าจะนำหุ้นกู้ไปขายอีก 5,000 ล้านบาท และวันที่ 25 เมษายน 2560 มีการประชุมบอร์ดบริหารของธนาคารกรุงไทยว่าให้ตัดวงเงินสินเชื่อของเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จาก 7,500 ล้าน ให้เหลืออยู่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นได้ใช้ไป 6,400 ล้าน ซึ่งเหลือส่วนต่าง 1,400 ล้าน ให้คืนทันทีภายใน 3 เดือน ส่งผลให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ล้มละลาย จึงได้เชิญธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้เงินมาชี้แจง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า จากที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เป็นการพูดถึงกรณีที่มีการตัดวงเงินสินเชื่อเท่านั้น แต่สื่อมวลชนได้กล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากนั้นว่ามีการฟ้องร้องกัน และเนื่องจาก นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ซึ่งเป็นประธานบอร์ดบริหาร 3 บริษัท คือ ประธานบอร์ดบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย จำกัด ซึ่งเป็นบอร์ดบริหารขนาดใหญ่ของประเทศไทย ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่นายกฯจะไม่รู้จัก เพราะต้องมีการแต่งตั้งโดยหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งก็คือนายกฯ ทั้งที่มีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าผู้ใดที่อายุครบ 65 ปีบริบูรณ์จะต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นนายไกรฤทธิ์ต้องพ้นตำแหน่งในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 แต่ยังมีการดำรงตำแหน่งต่อ
อย่างไรก็ตามประเด็นนี้คือสิ่งที่ตนท้วงติง สิ่งสำคัญคือ ก่อนที่นายไกรฤทธิ์จะอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ นายกฯ ได้แต่งตั้งนายไกรฤทธิ์เป็นที่ปรึกษาและให้อำนาจหน้าที่อยู่ใต้คำสั่งว่าให้ส่วนราชกาลทุกส่วนให้ความร่วมมือจากการร้องขอของคณะกรรมการนี้ และมีหนังสือหารือจากธนาคารแห่งประเทศไทยไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า ธ.กรุงไทยไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แต่ธ.กรุงไทยกลับเอาความในกฤษฎีกาไปใช้ประโยชน์ ยื่นต่อก.ก.ต.ตลาดหลักทรัพย์ นายไกรฤทธิ์จึงไม่ต้องอยู่ภายใต้พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ จึงสามารถทำงานต่อได้
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า การกระทำเช่นนี้เป็นการทำผิดกฎหมาย ตนจึงโยงว่านายกฯ แต่งตั้งคนเหล่านี้เป็นที่ปรึกษาและได้ทำความเสียหายต่อธนาคารกรุงไทยและประชาชนผู้ถือหุ้น โดยมีหลักฐานชัดเจน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และได้อภิปรายเหตุการณ์ต่างๆ จนถึงวันที่ 25 เมษายน 2560 เท่านั้น หลังจากนั้นจะมีการฟ้องร้องกันอย่างไร ตนไม่ได้กล่าวถึง
