09.00 INDEX กระสวน ปรับครม. ครั้งใหม่ เผือกร้อน ในมือ “ประยุทธ์”
โอกาสที่ “ป้อมค่าย” จะถูกตีแตกจาก “ภายใน” แสดงแนวโน้มและ ความเป็นไปได้ขึ้นมาอย่างเด่นชัดเป็นลำดับ
นับแต่สถานการณ์หลัง อภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นต้นมา
ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจต่อคะแนนไว้วางใจต่ำสุด 258 คะแนนของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ
ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจต่อคะแนน “งดออกเสียง” จาก 6 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐใน “กลุ่มดาวฤกษ์” ต่อรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย
ไม่ว่าจะเป็น 3 คะแนนเสียงของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ยอมให้ความไว้วางใจต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์
ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐ
ก่อให้เกิดปัญหาที่จะต้องสะสางภายในพรรคพลังประชา รัฐ ภายในพรรคประชาธิปัตย์
และที่สุดศาลอาญาก็พิพากษาอันส่งผลให้ 3 รัฐมนตรีมีอันต้องหลุดจากตำแหน่งไปโดยอัตโนมัติ
หากมองจากการต้องพ้นตำแหน่งของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ นาย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แห่งพรรคพลังประชารัฐ และ นายถาวร เสนเนียม แห่งพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกับจะเป็นเรื่องง่าย
เพราะเมื่อ 3 รัฐมนตรีต้องพ้นออกไป พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ก็จัดการเอาคนใหม่เข้าไปแทนที่
กระนั้น ในสถานการณ์อันมีปัญหาระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับ พรรคพลังประชารัฐ อันนำไปสู่ปัญหาภายในของพรรคพลังประชารัฐ ตลอดจนปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์
การปรับครม.ในสถานการณ์ “ฝุ่นตลบ” ทางการเมืองเช่นนี้
ยากยิ่งที่จะดำเนินไปด้วยความง่ายดาย เรียบร้อยและราบรื่น
แม้จะมีคนรอคอยการเสียบอย่างระทึกใจก็ตาม
สถานการณ์ครั้งนี้จะมีพรรคภูมิใจไทยเป็น “ตัวแปร” สำคัญ
ไม่เพียงเพราะมีปัญหาอยู่แล้วกับพรรคพลังประชารัฐ หากแต่ยังมีจำนวน ส.ส.ที่ทะยานจาก 51 ไปยัง 61 อย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่าภายในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าภายในพรรคประชาธิปัตย์ ล้วนมีปัญหาของตนเองดำรงอยู่อันจะทำให้การแบ่งสรรปันส่วนแต่ละตำแหน่งสลับซับซ้อน
เมื่อเผชิญกับปัจจัยของจำนวน ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทยสาดซัดเข้าไปอีก
ใครที่เป็น “ผู้จัดการ” รัฐบาลก็ต้องปวดเศียรเวียนเกล้า