‘เดินทะลุฟ้า’ วันที่ 9 ปักหมุด 16.3 กิโล ปชช.ร่วมขบวน-ให้กำลังใจเพียบ ‘ชูเวช’ ชวนเคลื่อนไหวที่บ้าน สื่อสารข้อเรียกร้อง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กิจกรรม “เดินทะลุฟ้า” คืนอำนาจประชาชน ของกลุ่มราษฎร และ เครือข่าย People Go Network ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบเดินเท้า จากจังหวัดนครราชสีมา ถึงกรุงเทพมหานคร รวมระยะทาง 247.5 กิโลเมตร เพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเรียกร้องให้ปล่อย 4 แกนนำ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
สำหรับการเดินในวันที่ 9 มีกำหนดระยะทางรวม 16.3 กิโลเมตร
จากจุดเริ่มต้น ตลาดผักป่า อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
จุดพักที่ 1 สถานีบริการ NGV ทีพีไอ โพลีน ระยะทาง 4.1 กม.
จุดพักที่ 2 วัดซับบอน ระยะทาง 1.8 กม.
จุดพักที่ 3 พักกลางวัน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ระยะทาง 3 กม.
จุดพักที่ 4 สวนมิ่งมงคล ระยะทาง 3.1 กม.
จุดสิ้นสุด ปั้ม ปตท. ถัดจากหน่วยบริการตำรวจทางหลวงทับกวาง ระยะทาง 4.3 กม.
ทั้งนี้ กลุ่ม UNME of Anarchy ระบุด้วยว่า เข้าเขตสระบุรีกันแล้ว มาร่วมเดินกันอย่าช้าอยู่ไย
พบคนที่รักเสรีภาพประชาธิปไตยเหมือนกันนับเป็นความงดงามของชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.50 น. ขบวน เดินทะลุฟ้า เริ่มออกเดินช่วงที่ 1 ก้าวเข้าสู่กิโลเมตรที่ 126
โดยเวลา 09.40 น. ตัวแทนกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อไหวทางการเมือง อาทิ เต้ และ เคน ตัวแทนกลุ่ม “พรรควิฬาร์” พร้อมด้วย จอร์จ และ ตั้ว จากกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และ จูน นักศึกษา ม.นเรศวร พิษณุโลก ตัวแทนกลุ่ม NU movement มาร่วมเดินขบวนด้วย ไปจนถึงกลุ่มภาคประชาสังคม อาทิ “นะ” จากสวนลมหายใจอันสงัด ราชบุรี, “นงชัย พันดา” กลุ่มรักษ์อำเภอวานร คัดค้านเหมืองโปแตส สกลนคร, กลุ่มคนรักบ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองทองคำ จังหวัดเลย, กลุ่ม FAV.53 First aid volunteer Thailand และ นักศึกษาฝึกงานราชภัฏสกลนคร ก็ร่วมเดินทะลุฟ้าเช่นกัน
เวลา 09.15 น. ชาวบ้านริมทางมวกเหล็ก ต.กลางดง ออกมาชูสามนิ้วให้กำลังใจทีม #เดินทะลุฟ้า
เวลา 10.22 น. ออกจากสถานีบริการ NGV ทีพีไอ โพลีน ก้าวเข้าช่วงที่ 2 สู่กิโลเมตรที่ 130
เวลา 11.10 น. ขบวนเข้าสู่ช่วงที่ 3 กิโลเมตรที่ 133
ทั้งนี้ เครือข่าย People Go Network ได้เปิดเผยแผนการเดินทะลุฟ้า ตั้งแต่วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึงวันอังคารที่ 2 มีนาคม 2564 โดยจะหยุดพักเดินในวันพุธที่ 3 มีนาคม ก่อนเดินต่อในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2564 มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร มีรายละเอียด ดังนี้
จุดสิ้นสุดของแต่ละวันจะเป็นจุดเริ่มต้นของวันรุ่งขึ้น
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 – การเดินวันที่ 8 สิ้นสุดที่ ตลาดผักป่า มวกเหล็ก ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 – การเดินวันที่ 9 สิ้นสุดที่ ปั้ม ปตท. ถัดจากหน่วยบริการตำรวจทางหลวงทับกวาง ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 – การเดินวันที่ 10 สิ้นสุดที่ โรงพยาบาลค่ายอดิศร ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี
วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 – การเดินวันที่ 11 สิ้นสุดที่ ส.ทล.2 ตำรวจทางหลวงสระบุรี ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – การเดินวันที่ 12 สิ้นสุดที่ บจก. ลี้คิมฮวด ออโต้พาร์ท ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.อยุธยา
วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 – การเดินวันที่ 13 สิ้นสุดที่ ลานหน้าร้านโก๋ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.อยุธยา
วันอังคารที่ 2 มีนาคม 2564 – การเดินวันที่ 14 สิ้นสุดที่ วัดคุณหญิงส้มจีน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เครือข่าย People Go Network ยังระบุอีกว่า ขบวน #เดินทะลุฟ้า เป็นกระบวนการสันติวิธี เดินเพื่อหาแนวร่วม เชื่อมโยงประชาชน เพื่อเรียกร้องให้ ปล่อยเพื่อนเรา ไม่จับเพิ่ม, ยกเลิก112, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่คืนอำนาจประชาชน, ลดความเหลื่อมล้ำสร้างสังคมเป็นธรรม จึงขอให้ผู้เข้าร่วมเดินทำความเข้าใจวัตถุประสงค์และเคารพหลักการการเดินโดยสันติดังกล่าว
สำหรับใครที่จะมาพักค้างคืน ให้เตรียมเต็นท์ และอุปกรณ์ส่วนตัวมาด้วย
หากประสงค์จะเข้าร่วมเดิน ณ จุดใด ให้ดูแผนการเดินรายวันที่โพสต์ทุกเช้าได้
หากประสงค์จะค้างคืน รบกวนเตรียมที่พักอาหารของตนเองและคณะ
หากต้องการนำน้ำท่าอาหารมาบริจาค เพื่อลดปริมาณขยะ และบริหารจัดการไม่ให้ของเหลือทิ้ง
ทั้งหมดนี้ขอความกรุณาติดต่อฝ่ายดูแลขบวนล่วงหน้าที่
โทร.0950141969 เฮียหมา หรือโทร. 0968753162 ฟาน
ผู้จัดการเดินทะลุฟ้าขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ติดต่อ
แจ้งความประสงค์ล่วงหน้าเท่านั้น
นายชูเวช เดชดิษฐ์รักษ์ นักร้องนำวงดนตรีสามัญชน ได้ร่วมขบวนเดินทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย นายชูเวชกล่าวถึงกระบวนการสันติวิธีด้วยว่า กระบวนการสันติวิธี ต้องมีกระบวนการอย่างสร้างสรรค์ไปไกลกว่าข้อจำกัดที่โครงสร้างกำหนดอยู่ เป็นคอนเซ็ปต์หนึ่งของหลักการสันติวิธี ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้ ถ้าเราไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบได้ เช่น ระบบรัฐสภา ประชาชนอย่างเราก็ต้องมีจินตนาการใหม่ๆ ในการเสนอข้อเรียกร้องของเรา เป้าหมายก็ต้องอยู่ที่การทำให้ผู้คนเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องแล้วก็มีส่วนร่วมได้ มีส่วนร่วมได้ทั้งในเชิงประเด็น และการปฏิบัติการด้วย การเดินไปแต่ละที่ก็ทำให้เราได้ไปปรากฏตัวหน้าบ้านเขา ซึ่งใช้ต้นทุนน้อยมากในการเข้าร่วม บางทีเขาอยู่ข้างทางแล้วเขาชูสามนิ้วให้ นั่นคือเขาได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการของเราแล้ว ถ้าเทียบกับการที่ให้เขาไปม็อบใหญ่ๆ บางทีเขาอาจจะมีต้นทุนในชีวิตที่ไม่เอื้อกับการไปชุมนุมขนาดนั้น เหมือนย้ายการชุมนุมมาไว้ที่หน้าบ้านของพวกเขา
“ผมคิดว่าเพื่อนๆ ทั้ง 4 คนที่ถูกคุมขังรู้ดีว่ามันเป็นเส้นทางของคนที่คิดจะสู้ การต่อสู้ทางการเมืองต้องเผชิญกับการใช้เครื่องมือทางกฎหมายของรัฐอยู่แล้ว เป็นเครื่องมือเดียวที่รัฐมั่นใจที่สุด เป็นเส้นทางที่ต้องผ่าน ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ทุกครั้งที่เขาเลือกใช้วิธีนี้ในการกำราบประชาชน ฝ่ายรัฐบาลเองก็มีต้นทุนที่ต้องจ่ายเหมือนกัน ก็คือเสียความชอบธรรมไปเรื่อยๆ เช่น การกลั่นแกล้งด้วยมาตรา 112 ผมอยากให้ทั้ง 4 คนมีกำลังใจที่ดี และรับรู้ว่าคุณเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ของความเสื่อมโทรมของกฎหมาย 112
สำหรับขบวนของคนหนุ่มสาวตอนนี้ ผมว่าสดใสดี มีความหวัง บางคนอธิบายว่ามันคือภาวะซบเซาอะไรก็ตาม แต่ว่าจริงๆ ผมว่ายังความหวัง เท่าที่ได้คุย ได้สัมผัสเวลาไปเล่นดนตรีแต่ละที่ เราก็รู้ว่าเขาเองก็มีการเตรียมพร้อมปฏิบัติการในพื้นที่ของเขาอยู่ มีการจัดการกลุ่มอะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้น ภาพที่เราเห็นที่กรุงเทพฯ มันอาจจะเป็นภาพที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง แต่ว่าผมยังเห็นว่าขบวนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ขอให้ทุกคนต่อสู้ด้วยความสนุกแล้วก็มีจินตนาการใหม่ๆ เราสามารถการเคลื่อนไหวเองได้จากที่บ้าน โดยที่ไม่ได้ต้องรอให้แกนนำเป็นคนกำหนดก็ได้ อาจจะเริ่มจากดูว่า พื้นที่สาธารณะตรงไหนของเราที่สามารถสื่อสารประเด็นข้อเรียกร้องของเราได้ ก็ลองใช้ศิลปะในการสร้างสรรค์ดู” นายชูเวช กล่าว
