‘ประเสริฐ’ เผย ‘ผอ.อคส.’ สั่งย้าย ‘สุทธินันท์’ ไม่เป็นธรรม อ้างนำเอกสารและข้อความไลน์มาเผยแพร่ ด้าน ‘สุทธินันท์’ ยันร้องทุกข์ตำรวจด้วยความบริสุทธิ์ใจ ชี้การดำเนินการล่าช้า ไม่ชัดเจน
เมื่อเวลา 14.34 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเมื่อวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ตนได้รับคำร้องขอความเป็นธรรมจาก นายสุทธินันท์ จิยะอมรเดช ผู้อำนวยการสำนักงานธุรกิจ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกคำสั่งย้ายจากผู้อำนวยการสำนักงานธุรกิจไปเป็นนักบริหาร 9 และถูกตั้งคณะกรรมการสอบ
นายประเสริฐกล่าวว่า ในคำสั่งย้ายได้ให้เหตุผล 2 เรื่องคือ การนำเอกสารขององค์การคลังสินค้าออกมาเผยแพร่ต่อบุคคลภายนอก และการนำข้อความในการสนทนาในไลน์มาเผยแพร่ ซึ่งตนได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ตนจึงขอชี้แจงว่าเดิมทีตนไม่ได้รู้จักกับนายสุทธินันท์มาก่อน และไม่เคยได้รับข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเอกสารหรือคลิปที่ตนนำมาอภิปราย ตนทราบเพียงแค่นายสุทธินันท์ได้มาร้องทุกข์กับตำรวจและคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อีกที
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนมีข้อสังเกตอยู่ 2-3 ประเด็นคือ เหตุใดนายสุทธินันท์ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจ ซึ่งถือเป็นการปกป้องผลประโยชน์ขององค์การคลังสินค้าและเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่มีความเกี่ยวข้องในการดำเนินการดังกล่าว หลังจากไปร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าคนใหม่ได้ยับยั้ง ทั้งๆ ที่นายสุทธินันท์แสดงความบริสุทธิ์ใจในการปกป้ององค์กรนี้ ตนเชื่อว่านายสุทธินันท์ไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกลั่นแกล้ง
นายประเสริฐกล่าวว่า การที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานคณะกรรมการ อคส. ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้กระทบกับพยานและหลักฐานไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดูได้จากกรณีนายสุทธินันท์โดนย้ายและถูกตั้งกรรมการสอบ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังปกป้องบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดครั้งนี้ โดยยังปล่อยให้อยู่ในตำแหน่งอีก ตนคงต้องดำเนินการต่อไปในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นายสุทธินันท์ กล่าวว่า สาเหตุที่ออกมาแจ้งความกล่าวโทษกับกองปราบ เนื่องจากการทุจริตถุงมือยาง ตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการ ซึ่งการแจ้งความกล่าวโทษครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ อีกทั้งเห็นว่าการดำเนินการมีความล่าช้าและไม่ชัดเจน ตนพยายามทวงถามจากฝ่ายบริหาร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบว่าเงินเหลือเท่าไหร่ และไปที่ไหนบ้าง อีกทั้งเห็นว่าการจะให้ ผอ.อคส.ร้องทุกข์กล่าวโทษอาจมีความลำบากใจ เพราะเป็นการกล่าวโทษผู้บังคับบัญชาตนเอง